ผู้ถือหุ้น SPRC ไฟเขียวซื้อ “ปั๊มคาลเท็กซ์” แตกไลน์ค้าปลีกน้ำมัน ควบรวมเสร็จ Q1/67

ผู้ถือหุ้น SPRC ไฟเขียวซื้อ “ปั๊มคาลเท็กซ์” จาก “เชฟรอน (ไทย)” แตกไลน์ค้าปลีกน้ำมัน ควบรวมเสร็จ Q1/67 พร้อมลงทุน “ท่อส่งปิโตรเลียมไทย-BAFS” เดินหน้าต่อยอดธุรกิจปิโตรเลียม


บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น เพื่อเข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบรนด์ “คาลเท็กซ์” ของบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด รวมถึงสัดส่วนการถือครองหุ้น 9.91% ในบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด สัดส่วนการถือครองหุ้น 2.51% ในบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS และที่ดินแปลงที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมถึงสัดส่วนการใช้ประโยชน์ในคลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลาและจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วย

โดยในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ผู้ถือหุ้นของ SPRC ซึ่งไม่รวมเชฟรอน ได้มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โดยกระบวนการควบรวมธุรกิจจะดำเนินการภายในช่วง 10 ถึง 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งคาดว่าการทำธุรกรรมต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ จะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/67

นายโรเบิร์ต โดบริค กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPRC เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ SPRC ในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และเป็นการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ด้านห่วงโซ่คุณค่าที่จะทำให้ SPRC สามารถให้บริการลูกค้าในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้นผ่านการตลาดและจัดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพสูงของบริษัทฯ

สำหรับการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นการรวมสินทรัพย์ในทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ได้แก่ คลังน้ำมันเชื้อเพลิง และสถานีบริการน้ำมันจำนวน 427 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งดำเนินการโดยพันธมิตรทางธุรกิจมืออาชีพ และ SPRC จะยังคงจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพภายใต้แบรนด์ คาลเท็กซ์ และ เทครอน ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจและอยู่เคียงคู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน สำหรับการเข้าทำธุรกรรมในครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจการกลั่นและการตลาดได้ครบวงจรมากขึ้น ควบคู่กับการมอบประสบการณ์และบริการให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ  นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มทักษะความรู้ความสามารถของพนักงานให้มีความพร้อมในการมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อการเติบโตในระยะยาวต่อไป

ด้านนายแบรนท์ ฟิช ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์สากล (President of Chevron International Products) กล่าวว่า เชฟรอนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SPRC ในสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 60 เล็งเห็นว่าการทำธุรกรรมในครั้งนี้จะเป็นการรวมธุรกิจการกลั่นเชื้อเพลิงปิโตรเลียมและการตลาดในประเทศไทยให้มาอยู่ภายใต้โครงสร้างการบริหารจัดการเดียวกัน อีกทั้ง SPRC เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีการบริหารจัดการโดยอิสระ จึงทำให้ SPRC สามารถสร้างโอกาสในการเติบโตและสร้างผลกำไร ซึ่งจะส่งผลให้เชฟรอนมีความสามารถในการแข่งขันในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นผ่านการดำเนินธุรกิจของ SPRC

Back to top button