จับตาพรุ่งนี้ BANPU ร่วงต่อ! เซ่น “ออสซี่” คุมผลิตถ่านหิน “รัฐนิวเซาท์เวลส์-ควีนส์แลนด์”

จับตาพรุ่งนี้ BANPU ร่วงต่อ! หลังรัฐบาลออสเตรเลียตั้งเพดานราคาขายถ่านหิน 125 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน เป็นเวลา 12 เดือน ในประเทศ “รัฐนิวเซาท์เวลส์-ควีนส์แลนด์” เพื่อลดผลภาระค่าไฟภาคครัวเรือน ผนวกกับมีแรงกดดันจากข่าวอินโดนีเซียมีแผนผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอ้างอิงจาก สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมที่จะออกคำสั่งอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มีการกำหนดให้บริษัทที่ดำเนินกิจการด้านการขุดเหมืองในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นแหล่งส่งออกถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของโลก จำเป็นต้องสำรองกำลังการผลิตไว้สูงถึง 10%

ขณะที่ความต้องการขายถ่านหินในประเทศ อีกทั้งมีคำสั่งจากภาครัฐให้ควบคุมราคาถ่านหิน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือน เนื่องจากมีปัญหาราคาค่าไฟในประเทศสูงขึ้น

นอกจากนั้นยังมีคำสั่งสำรองถ่านหิน 10% รวมถึงผู้ผลิตยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากมาตรการก่อนหน้าที่ออกมาเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นการตั้งเพดานราคาขายถ่านหินในประเทศของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และควีสแลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตถ่านหินสูงสุดของประเทศเอาไว้ที่ระดับ 125 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน เป็นเวลา 12 เดือน เพื่อลดผลกระทบของภาคครัวเรือน

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุอีกว่า ราคาขายถ่านหินที่ระดับ 125 เหรียญออสเตรเลียต่อตัน โดยคิดเป็นครึ่งหนึ่งของราคาขายเฉลี่ยของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ในช่วงไตรมาส 3/2565

ขณะเดียวกัน นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ราคาหุ้นของ BANPU ที่ปรับตัวลงแรงจาก 2 ปัจจัยหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาก๊าซธรรมชาติในอเมริกาปรับตัวลงมาค่อนข้างเร็ว โดยยังไม่ถึง 1 เดือนลงมาจากระดับสูงสุดราว 4.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู มาอยู่ที่ระดับกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู เนื่องจากหน้าหนาวในซีกโลกเหนือดูเหมือนว่าจะผ่านไปได้ด้วยการสต๊อกเชื้อเพลิงไว้สูง

รวมถึงราคาเชื้อเพลิงปรับตัวลงกดดันให้ราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงมานานปรับตัวลงตามไปด้วย ประกอบกับยังมีแรงกดดันจากข่าวที่อินโดนีเซียมีแผนผลิตถ่านหินเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อ 2 ธุรกิจหลักของบริษัท บ้านปู

ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ Outperform ของหุ้น BANPU แต่คาดว่าอาจจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งหลังจากนี้ทั้งเรื่องของดีมานด์และซัพพลาย ดังนั้นในช่วงระยะสั้นแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น

ด้าน นายสุวัฒน์ สินสาฎก ผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้นกลุ่มพลังงาน กล่าวว่ากรณีที่รัฐบาลออสเตรเลียคุมเพดานราคาถ่านหินในประเทศนั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อหุ้น BANPU ไม่มากนัก เนื่องจากบริษัทจำหน่ายถ่านหินดังกล่าวภายในประเทศออสเตรเลีย ประมาณ 60-70% ที่เหลือส่งออกเล็กน้อยเท่านั้น

โดยประเมินว่าหากมาตรการดังกล่าวออกมาใช้จะกระทบต่อกำไรสุทธิของ BANPU เพียง 1-2 พันล้านบาทต่อไตรมาสเท่านั้น ซึ่งธุรกิจถ่านหินในออสเตรเลียไม่ได้เป็นตัวทำกำไรให้กับบริษัท ส่วนใหญ่จะขาดทุน หรือ เท่าทุน แต่ที่ทำกำไรให้บริษัทจะอยู่ประเทศอินโดนีเซี

Back to top button