“หุ้นโลจิสติกส์” รับเต็ม ผู้โดยสารแห่ “เข้า-ออก” ไทยนับล้านเดือนม.ค.
เปิดตัวเลขผู้โดยสารเดือนมกราคม 2566 แห่เข้า-ออกไทยนับล้าน หุ้นโลจิสติกส์ รับอานิสงส์เต็ม ชูกลุ่มการบิน
ประชาชนเดินทาง เข้า-ออกไทยอย่างคึกคักอีกครั้ง ซึ่งไม่เพียงแต่คนไทยที่เดินทางกันปกติแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เข้าหลังไหลเข้ามาคึกคักอีกด้วย ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ปรากฏชัดนับตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยแบบไม่ขาดสาย พร้อมกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ตามจุดหมุดหมายที่ต้องการท่องเที่ยว
สำหรับข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงคมนาคมในรอบเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาณผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยจำนวนมาก ในทุกมิติทุกช่องทางการขนส่งรวมแล้ว 4,669,197 คน และเมื่อมีการแยกรายละเอียดในเรื่องการเดินทาง จะพบว่า การเดินทางทางอากาศมีสัดส่วนปริมาณผู้โดยสารสูงสุด คิดเป็น 96.52% รองลงมาทางน้ำ คิดเป็น 1.97% ตามด้วยทางถนน คิดเป็น 1.20% และทางราง คิดเป็น 0.31%
ขณะเดียวกันปริมาณการเดินทางในช่วงเดือนมกราคม 2566 ยังพบอีกว่าจำนวนการเดินทางผ่าน ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3,109,604 คน คิดเป็น 69% รวมถึงมีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานดอนเมือง 553,073 คน คิดเป็น 12% และมีปริมาณการเดินทางผ่านท่าอากาศยานภูมิภาค 844,053 คน คิดเป็น 19%
จากตัวเลขของผู้โดยสารที่มีการดำเนินการมาก ซึ่งส่งอานิสงส์ไปยังหลายภาคส่วนของธุรกิจเพื่อในการกระตุ้นเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องธุรกิจเกี่ยวกับโลจิสติกส์ที่จะได้รับผลไปเต็มๆ ตามไปด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากกรณีที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน นับเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อหุ้นกลุ่มการบินและท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ โดยหุ้นกลุ่มการบินที่มีความโดดเด่น คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT , บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่ในสายการบินไทยแอร์เอเชีย และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA
ขณะที่หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่น คือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT และบริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA
อย่างไรก็ตามหากมองให้ลึก ยังทำให้พบอีกว่าในระหว่างวันที่ 1-28 ม.ค. 2566 พบว่า AOT มีผู้โดยสารเส้นทางบินต่างประเทศเพิ่มขึ้น 854.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเส้นทางในประเทศเพิ่มขึ้น 74.9% สะท้อนภาพการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่องนับจากนักท่องเที่ยวจีนเริ่มเดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 ซึ่งนี่คือบางส่วนเท่านั้นของหุ้นที่เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งคนของด้านการบิน
นอกจากนี้ในส่วนอื่นๆที่คาดว่าจะมีคนมาใช้บริการด้วย อย่างเช่นธุรกิจเกี่ยวข้อง บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ที่ทำธุรกิจการก่อสร้างและบริหารทางพิเศษและบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า
รวมถึง บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT บริหารโครงการสัมปทานทางยกระดับดอนเมืองช่วงดินแดงจนถึงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ที่คาดว่าจะได้อานิสงส์ไปด้วยจากการใช้เส้นทางต่างๆ