จับตา SAWAD ดีดบวก! กลับเข้า SET50 แทนหุ้น “ดีแทค”-SIRI จองคิวเข้า SET100

จับตา SAWAD ดีดบวก! ทะยานกลับเข้า SET50 หลัง TRUE ควบ DTAC ฟาก SIRI จองคิวเข้า SET100 ย้ำทั้ง 2 หุ้นจะเริ่มเข้าคำนวณวันที่ 3 มี.ค.นี้ ด้านโบรกฯ คาด SAWAD กำไรไตรมาส 4/65 ที่ 1,185 ล้านบาท โต 4% ชี้เกณฑ์เช่าซื้อใหม่ทำผู้ประกอบการรายเล็กทยอยปิดตัวเพียบ ส่งผลแห่เข้ามาขอกู้กับ SAWAD ช่วยดันพอร์ตสินเชื่อปี 66 พุ่ง 25%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC หลังจากควบรวมแล้ว บริษัทใหม่จะใช้ชื่อว่า “True Corporation” ส่งผลให้หุ้น TRUE และ DTAC จะสามารถซื้อขายได้จนถึงวันที่ 17 ก.พ. เป็นวันสุดท้าย หลังจากนั้น วันที่ 20 ก.พ.–2 มี.ค. 2566 จะถูกพักการซื้อขายหุ้นเพื่อรอการควบรวมกิจการและแปลงเป็นหุ้น “TRUE ใหม่”

โดยหลังจากการควบรวมเสร็จ หุ้นใหม่จะถูกเข้าไปคำนวณใน SET50 พร้อมกับการนำหุ้นเก่าออก ดังนั้นจะทำให้ SET50/100 เหลือที่ว่างอีก 1 ที่ ซึ่งเกณฑ์ในการปรับปรุงดัชนีระหว่างรอบการคัดเลือก ทางตลาดฯ จะใช้รายชื่อสำรองในหุ้นสำรอง (Reserve List) 5 หุ้น รอบครึ่งแรกปี 2566 ในการคัดเลือก โดยจะยึดหุ้นที่มีมูลค่ามาร์เก็ตแคปมากที่สุด ก่อนหน้าการเพิกถอนหลักทรัพย์เดิม 3 วัน เพื่อพิจารณาหุ้นเข้า SET50 และ SET100

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังจากควบรวมเสร็จเรียบร้อย หุ้นของบริษัทใหม่จะถูกนำเข้าตลาดฯ พร้อม ๆ กับการเพิกถอน 2 หลักทรัพย์เดิม คือ TRUE และ DTAC ดังนั้น ใน SET50 รวมถึง SET100 จะเหลือที่ว่าง 1 ที่ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากมาร์เก็ตแคปแล้ว คาดว่ามีโอกาสสูงที่บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD จะถูกนำกลับเข้าคำนวณใน SET50 และบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI มีโอกาสเข้า SET100

ดังนั้น แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ในการปรับพอร์ตรอบนี้ โดย SAWAD พื้นฐาน 65 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/2565 อยู่ที่ 1,185 ล้านบาท โต 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทรงตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง 15% จากไตรมาสก่อน และ NPL อยู่ภายใต้การควบคุมที่ดี มองเป็นหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่ได้ประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ผ่านจุดพีกไปแล้ว ลดแรงกดดันด้านต้นทุนการเงิน และคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวในปีนี้

บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ที่ราคาเป้าหมายปี 2566 เท่ากับ 62 บาท อิง P/E ที่ระดับ 16.7 เท่า มีปัจจัยโดดเด่นจากการปรับกลยุทธ์ขยายสินเชื่อแบบเชิงรุกมากขึ้น ประเมินการขยายตัวของสินเชื่อจะสูงกว่า 20% ในปี 2566-2567 แม้ว่าจะมีฐานที่สูงมากในปี 2565 แล้วก็ตาม เพราะจะโดดเด่นด้วยธุรกิจเช่าซื้อที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก หรือ key driver หลักในช่วงนี้

ขณะที่ ผลกระทบจากการใช้พ.ร.บ.เช่าซื้อใหม่ไม่ได้กระทบ SAWAD ในทางกลับกันจะเป็นผลดี เนื่องจากผู้ประกอบการรายเล็กได้ค่อย ๆ หายไป แล้วหันมาขอสินเชื่อกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ช่วยหนุนให้ SAWAD ยังคงเป็นผู้นำตลาด และมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของธุรกิจเช่าซื้อ และมีความสามารถในการสร้างกำไรที่ดี

Back to top button