รู้จัก! SVR ผู้เชี่ยวชาญ “บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม” ก่อนเทรด 8 ก.พ.นี้
“สิวารมณ์ เรียลเอสเตท”” อสังหาฯน้องใหม่กระแสแรง จ่อลงสนามเทรดตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 8 ก.พ. นี้
หุ้นอสังหาริมทรัพย์ร่าวช่วงปลายปี 65 จนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่าเนื้อหอมไม่ใช่น้อย นักลงทุนเข้ามา ตะลุมไล่ราคากันอย่างคึกคัก อย่างในตัวของ SIRI, SPALI, ORI, AP และ SC เป็นต้น
ด้วยกระแสของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์กำลังมาแรงในช่วงนี้ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นอสังหาน้องใหม่ บริษัท สิวารมณ์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ SVR ที่จะเข้ามาเทรดในตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 8 ก.พ. 66 นี้
สำหรับประวัติ SVR ก่อตั้งในปี 2560 ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ในแนวราบเป็นหลัก ด้วยแนวคิดว่าโครงการแนวราบนั้นมีความต้องการสม่ำเสมอ ทั้งอสังหาริมทรัพย์ประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม โดยมีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 130 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 2.20 บาท พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนเพราะหุ้นมีการขายเกลี้ยง
ด้าน นายรณฤทธิ์ ฐิติสุริยารักษ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินอาวุโส SVR เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มและโอกาสในการต่อยอดการพัฒนาโครงการในอนาคต ให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อก้าวสู่การเติบโตในระดับ High Growth ได้อย่างมั่นคงยั่งยืนในระยะยาว ตามแนวคิด “Best Smart Living”
อีกทั้งการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเป็นการเปิดโอกาสในการหาแหล่งเครื่องมือทางการเงินให้กับบริษัท และยังดึงกลุ่มนักลงทุนได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จเพื่อเติบโตไปพร้อม ๆ กับ SVR ด้วย
ส่วนเงินระดมทุนกว่า 286 ล้านบาท จะนำไปใช้ใน 3 วัตถุประสงค์หลัก ได้แก่ 1.ขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่มีความชำนาญผ่านแบรนด์ของ SVR รวมถึงการ 2.นำไปชำระหนี้สินในระยะสั้น โดยบริษัทฯ มีนโยบายบริหารจัดการอัตราหนี้สินต่อทุน ภายหลัง IPO ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2 : 1 เท่า
นอกจากนี้ยังเป็น 3.ทุนหมุนเวียนในบริษัท ซึ่งภายหลังการระดมทุน จะทำให้โครงสร้างของสิวารมณ์เปลี่ยนไป โดยโครงสร้างใหม่ของ เอสวีอาร์ จะมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 510 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้นสามัญ 510 ล้านหุ้น แบ่งสัดส่วนผู้ถือหุ้นเป็น ครอบครัวฐิติสุริยารักษ์ 26.07% ครอบครัวมโนธรรมรักษา 23.1% และอื่น ๆ 25.27% เสนอขายต่อประชาชน 25.49%
ขณะที่ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ระบุว่า ระดับราคาที่เสนอขายหุ้นละ 2.20 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 13.93 เท่า เป็นการเทียบจากผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 – 30 ก.ย. ปี 2565 จากการมีโครงการที่รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกๆ ปี ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของ SVR
นอกจากนี้ บล.พาย ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 66 ที่ 3.1 บาท ด้วยวิธี PE multiple โดยใช้กำไรต่อหุ้นปี 23 ที่ 0.36 บาท เพื่อสะท้อนส่วนของรายได้จากการโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น จากโครงการที่มีอยู่เดิมและเปิดโครงการใหม่ในอนาคต ขณะเดียวกันอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโครงการแนวราบใหม่ที่ราคาสูงขึ้น โดยกำหนดเป้า PE ปี 66 ที่ระดับ 8.5 เท่า ซึ่งเทียบเคียงค่าเฉลี่ยการซื้อขายของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ การที่หุ้น SVR กระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสายไล่ล่าหุ้นไอพีโอ ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อบริษัทฯ ว่าหากลงเทรดในตลาดรองแล้วจะช่วยดึงดูดกลุ่มนักลงทุนใหม่ ๆ เข้ามาลงทุนในหุ้น SVR เพิ่มขึ้น