ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค. พุ่งแตะระดับ 51.7 นิวไฮรอบ 2 ปี

"ม.หอการค้าไทย" เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค. 66 พุ่งแตะระดับ 51.7 สูงสุดในรอบ 26 เดือน รับเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศสะพัด


ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.66 อยู่ที่ระดับ 51.7 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 นับตั้งแต่ พ.ค.65 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือนนับตั้งแต่ ธ.ค.63

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 46.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำ อยู่ที่ 49.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 60.2

“การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องทุกรายการ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มกลับมาเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้น และจะเริ่มจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับในไตรมาสแรกของปีนี้” นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ระบุ

โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ 1.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ที่มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 66 แก่ประชาชน เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน, มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, มาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงิน 2.นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากขึ้น โดยเฉพาะจีนภายหลังจากการเปิดประเทศ 3.ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดี เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยเพิ่มกำลังซื้อในต่างจังหวัด 3.เงินบาทปรับตัวแข็งค่า สะท้อนถึงการไหลเข้าสุทธิของเงินตราต่างประเทศ

ขณะที่ยังมีปัจจัยลบ ได้แก่ 1.ผู้บริโภคยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า และรายได้ยังไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น 2.คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% 3. กระทรวงการคลัง ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 เหลือโต 3.0% จากเดิมคาด 3.4% จากผลของการส่งออกไทยที่หดตัวต่อเนื่องหลายเดือน 4.ความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่จะกระทบต่อราคาน้ำมันโลก และต้นทุนสินค้า 5.กังวลต่อปัญหาระบาดโควิด-19 ที่ยังมีการแพร่ระบาด

Back to top button