ด่วน! ปปง.ส่งเรื่องอัยการ ยื่นศาล “ยึดทรัพย์” แก๊งหุ้น MORE กว่า 4.4 พันล้านบาท

ด่วน! “ปปง.” เตรียมส่งเรื่องให้อัยการ ยื่นคำร้องให้ศาลสั่งยึดทรัพย์ แก๊งหุ้น MORE ตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 59 รายการ พร้อมดอกผล กว่า 4.4 พันล้านบาท ฐานฉ้อโกง


นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม เมื่อวันที่ 7 ก.พ.66 เห็นชอบให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด สรุปดังนี้

1.ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 16 รายคดี ทรัพย์สิน 220 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 106 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน และการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์

2.ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 8 รายคดี ทรัพย์สิน 93 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 4,492 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน การจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.คดี นายอภิมุขฯ กับพวก (กรณีหุ้น MORE) มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542  ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้เลขาธิการ ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 59 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 4,470 ล้านบาท

2.คดี ห้างหุ้นส่วนจำกัด สถานีหลักสี่ กับพวก (กรณีหลอกลงทุนธุรกิจฟาร์มเห็ด) โดยมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้เลขาธิการ ปปง. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 19 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท

กรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน สำนักงาน ปปง. จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อแจ้งให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหายภายใน 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเมื่อสำนักงาน ปปง. รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหายและความเสียหายเสร็จสิ้นแล้ว จะเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อพิจารณาส่งเรื่องเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย) ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ต่อไป

3.ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย) จำนวน 5 รายคดี ทรัพย์สิน 58 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ

4.มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 44 รายคดี โดยส่วนใหญ่เป็นคดีความผิดมูลฐานยาเสพติด ค้ามนุษย์ ฉ้อโกงประชาชน และการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้คณะกรรมการธุรกรรมมีมติรับทราบกรณีที่เลขาธิการ ปปง.ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวในกรณีจำเป็นเร่งด่วนตามมาตรา 48 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 รายคดี นายศิริชัย กับพวก ซึ่งเป็นกรณีความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีการยึดและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม จำนวน 22 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามจากมติของคณะกรรมการธุรกรรม เป็นที่น่าสังเกตว่าในกรณีของหุ้น MORE ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ นายอภิมุขฯ กับพวก จำนวน 59 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 4,470 ล้านบาท จากเดิมที่เคยมีคำสั่งอายัดทรัพย์ไว้เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 65 รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 5,300 ล้านบาท พร้อมดอกผล นั้นเท่ากับว่า มีทรัพย์สินที่เคยต้องสงสัยในคดีนี้ 830 ล้านบาทไม่ถูก ปปง.ดำเนินการยึดทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งสอดคล้องกับมติของคณะกรรมการในข้อ 3 ที่มีมติคืนทรัพย์สิน จำนวน 5 รายคดี ทรัพย์สิน 58 รายการ มูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท ประกอบกับก่อนหน้านี้มีทรัพย์บางส่วนในโบรกเกอร์ฝั่งผู้ขายหลุดการอายัดทรัพย์

Back to top button