SCB EIC อัพเป้า “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เข้าไทยปีนี้ 30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.2 ล้านลบ.
SCB EIC ปรับประมาณการนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 66 เพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านคน จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนและการฟื้นตัวที่ดีของนักท่องเที่ยวจากชาติอื่น คาดสร้างรายได้กว่า 1.2 ล้านล้านบาท
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า การเปิดประเทศในทันทีของจีนตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ที่ผ่านมาถือเป็นการสร้างบิ๊กเซอร์ไพรส์เริ่มต้นปีใหม่หลังจากที่จีนยึดมั่นนโยบาย Zero Covid-19 อย่างเหนียวแน่นตลอด 3 ปี แม้จะเห็นสัญญาณบวกจากการลดความเข้มงวดของนโยบาย Zero Covid-19 มาอย่างต่อเนื่อง เช่น การอนุญาตให้ผู้เดินทางเพื่อธุรกิจสามารถเดินทางออกนอกประเทศ การเปิดให้นักศึกษาต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ หรือการลดระยะเวลาการกักตัวสำหรับผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่การเปิดประเทศเต็มรูปแบบในทันทีของจีนจากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจีนจะทยอยเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นเดียวกับแนวทางการเปิดประเทศของหลายประเทศทั่วโลกนั้นจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาไทยเร็วขึ้นสะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นกว่า 64% จากเดือนก่อน จาก 5.4 หมื่นคนในเดือนธันวาคม 2565 คาดว่าจะมาอยู่ที่ราว 9 หมื่นคนในเดือนมกราคม 2566 และมีแนวโน้มเร่งตัวสูงขึ้นจากนักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์เนื่องจากไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศนำร่อง ที่ทางรัฐบาลจีนอนุญาตให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อีกทั้งจากรายงานผลสำรวจความคิดเห็นของชาวจีนเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศหลังวิกฤตโควิด-19 ของหลายองค์กร เช่น Dragon Trail.com, Trip.com และ Global Times ยังพบว่า ไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความสนใจวางแผนเดินทางไปเที่ยวในปี 2566 ซึ่งจะยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเดินทางมาไทยเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดีในระยะแรก การเดินทางออกนอกประเทศของนักท่องเที่ยวจีนอาจยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างจากค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในระดับสูงจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและจำนวนเที่ยวบินของสายการบินที่เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการ อีกทั้ง นักท่องเที่ยวบางส่วนยังมีความกังวลด้านสุขอนามัย จึงส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกเดินทางกลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงตามด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความกังวลด้านสุขอนามัยไม่มากนัก ทั้งนี้ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไปคาดว่าข้อจำกัดการเดินทางจะเริ่มปรับลดลงจากที่สายการบินจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินออกจากจีนมากขึ้นในตารางบินฤดูร้อนตามความต้องการเดินทางไปต่างประเทศของชาวจีนที่อยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเร่งตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่อาจมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจของจีน การแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวชะลอลง
ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวจากชาติอื่นที่เดินทางมาไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นและคาดว่าจะกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 ได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยในเดือนมกราคมที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจากชาติอื่นเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 2 ล้านคนหรือฟื้นตัวเกือบ 85% แล้วเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2562 สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั่วโลกยังอยู่ในระดับสูงและฟื้นตัวได้เร็วนับตั้งแต่ไทยประกาศเปิดประเทศแบบไม่กักตัวในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แม้หลายประเทศจะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงในหลายด้าน ทั้งภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจชะลอตัว การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งแม้ในช่วงแรกส่งผลให้นักท่องเที่ยวรัสเซียที่เดินทางมาไทยหดตัวรุนแรง แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายและสายการบินสัญชาติรัสเซียกลับมาให้บริการในช่วงพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียในเดือนธันวาคม 2565 ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วมาอยู่ที่ราว 1.8 แสนคนหรือ 80% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562
นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเป้าหมายใหม่อย่างซาอุดีอาระเบียจากความสำเร็จของการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียก็จะช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียเดินทางเข้าไทยเพิ่มสูงขึ้น
โดยจากทิศทางเชิงบวกของการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนและแนวโน้มการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาติอื่นดังกล่าวส่งผลให้ SCB EIC ปรับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมในปี 2566 มาอยู่ที่ 30 ล้านคน ซึ่งคาดจะสร้างรายได้ให้ประเทศรวมกว่า 1.2 ล้านล้านบาท และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ในช่วงปลายปี 2567