READY เทรดสนั่น! ลุ้นวิ่งแตะเป้า 10.20 บ. การันตีกำไรปีนี้โต 70%

READY ขึ้นสนามเทรดวันแรก ลุ้นวิ่งชนเป้า 10.20 บาท โบรกการันตีกำไรปีนี้โต 67.7% รับแรงหนุนจากรายได้ค่าบริการที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของธุรกิจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.พ.66) หลักทรัพย์ บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY จะเข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี

สำหรับ READY และบริษัทย่อย ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว (All-in-One Sales and Marketing Platform) ที่ครอบคลุมด้านเว็บไซต์ (website) โฆษณาออนไลน์ (online advertising) ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และแพลตฟอร์มการจองโรงแรมโดยตรง (hotel direct booking platform)

โดยบริษัทเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการ พร้อมมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบบริการ ได้แก่ การให้บริการที่ลูกค้าดำเนินการได้ด้วยตนเอง (self services) และการให้บริการที่ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทบริหารจัดการให้ลูกค้า (managed services) โดยมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ซึ่งครอบคลุมในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2565 บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากบริการที่ลูกค้าดำเนินการได้ด้วยตนเอง ต่อบริการที่ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทบริหารจัดการให้ลูกค้า คิดเป็นร้อยละ 45 : 55

ทั้งนี้ READY มีทุนชำระแล้ว 50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 85 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 15 ล้านหุ้น นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมจะนำหุ้นออกขาย 20 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 31.06 ล้านหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 3.64 ล้านหุ้น และผู้มีอุปการคุณของบริษัท 0.3 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2566 ในราคาหุ้นละ 7.30 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย IPO 255.50 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 730 ล้านบาท

สำหรับการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 31.74 เท่า คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) ซึ่งเท่ากับ 22.71 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.23 บาท โดยมีบริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

ด้านนายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร READY เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมาย มุ่งสู่การเป็นผู้นำแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว หรือ Readyplanet All-in-One Platform ที่ครอบคลุมด้านเว็บไซต์ (Website), โฆษณาออนไลน์ (Online Advertising), ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และ ระบบจองโรงแรมโดยตรง (Hotel Direct Booking) โดยให้บริการผ่านแพลตฟอร์มที่บริษัทเป็นผู้พัฒนาขึ้นเอง พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา  เพื่อตอบสนองลูกค้าที่ต้องการยกระดับองค์กรให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล และปลดล็อกศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโตด้านการขายและการตลาด

โดยจากจุดเริ่มต้นกว่า 22 ปี ในฐานะ Tech company ที่มีวิสัยทัศน์มองว่าในอนาคตอินเทอร์เน็ตจะเติบโตและทวีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถมองภาพการเติบโตจากหลายประเทศทั่วโลกเป็นตัวอย่าง เริ่มจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไม่กี่ล้านคนในประเทศไทย หลังจากนั้นสิบปีผ่านไป ก็พิสูจน์ว่าเป็นไปตามนั้น และพัฒนามาเป็นเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังขับเคลื่อนประเทศ วันนี้ผมมองไปข้างหน้า มีความคล้ายกัน ในต่างประเทศที่มีพัฒนาการทางเทคโนโลยีไปก่อนหน้าเรา สามารถดูเป็นโมเดลในการพัฒนาได้ หากเราดูถึงสัดส่วนการใช้โฆษณาออนไลน์ ในต่างประเทศ ปัจจุบันจะอยู่ที่ราว 65% ของยอดโฆษณาทั้งหมด ส่วนในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 20% เท่านั้น เชื่อว่า อุตสาหกรรมนี้ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก แต่ธุรกิจไทยเราจะเติบโตไปกับคลื่นนี้ได้อย่างไร

รวมถึงอีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทในหลายส่วนงาน ก่อนหน้านี้ งบไอทีมักจะลงทุนไปในระบบหลังบ้านของการทำธุรกิจ แต่วันนี้ เรากำลังเข้าสู่ยุคของการลงทุนด้านฝ่ายขายและการตลาด รวมถึงเทคโนโลยียุคใหม่ด้าน การตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) การตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation) และ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics) สำหรับนำมาใช้ขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจยุคใหม่ การเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ จึงเป็นการสนับสนุนให้ READY ยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานสากล เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวเสริมว่า ในช่วงจองซื้อหุ้น IPO จำนวน 35,000,000 หุ้น มีนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเต็มจำนวน สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ READY ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการแพลตฟอร์มการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนับเป็นแพลตฟอร์มของคนไทยที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรที่มุ่งสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ทั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ใช้บริการแพลตฟอร์มด้านการขายและการตลาด เพื่อเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขาย รวมถึง โอกาสขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่องในอนาคต สอดรับไปกับเทรนด์ของอุตสาหกรรมดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในหลากหลายประเทศทั่วโลก สะท้อนโอกาสของ READY และแนวโน้มผลการดำเนินงานที่อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น ประกอบกับ การกำหนดราคา IPO ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 7.30 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 31.74 เท่า

ด้าน นายอมร พิริยะแพทย์สม Executive Vice President บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เชื่อมั่นว่า นักลงทุนมองเห็นศักภาพ และโอกาสการเติบโตของ READY ซึ่งนับเป็นหุ้นสาย Marketing Technology ที่มีจุดเด่น อยู่ในธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่ มีความแข่งแกร่งด้วยทีมผู้บริหาร มีประสบการณ์กว่า 22 ปี ทำให้นำความรู้ ความเชี่ยวชาญ มาใช้พัฒนาแพลตฟอร์มเป็นของตนเอง ไม่ได้พึ่งพิงแพลตฟอร์มจากต่างประเทศ สนับสนุนให้ธุรกิจไทย สามารถบรรลุเป้าหมาย ก้าวสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในด้านการขับเคลื่อนยอดขายและการตลาดได้อย่างทรงพลัง และมีประสิทธิภาพ

โดยการเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน ใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ Readyplanet All-in-One Platform เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและคุณสมบัติในการทำงานให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ รวมทั้งใช้สำหรับขยายทีมขายและทีมการตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้า และนำเสนอบริการเพิ่มจากฐานลูกค้าปัจจุบัน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ได้รายได้ประจำใหม่ (NEW MRR) และรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าใหม่สูงขึ้น (NEW ARPA) สนับสนุนผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง มั่นคง มีสภาพคล่องสูง และต้นทุนส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายคงที่ ยิ่งใช้มาก ต้นทุนต่อหน่วยจะลดลง

รวมทั้งใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต และสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดดจึงมั่นใจว่า READY จะเป็นอีกหุ้นน้องใหม่สาย Marketing Technology ตัวจริงเสียงจริงในตลาดทุน ที่น่าจับตามอง

ด้าน บล.เคจีไอ คาดกำไรสุทธิ READY ปี 65-66 ที่ 18 ล้านบาท โต 28.4% จากปีก่อน และ 31 ล้านบาท โต 67.7% ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากรายได้ค่าบริการที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของธุรกิจ ขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ทำให้ความสามารถในการทำกำไรมีแนวโน้มเชิงบวก ให้ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท/หุ้น

ด้าน บล.ทรีนีตี้ คาดผลการกำไรปี 66-67 เติบโตด้วย CAGR กว่า 26.1% เติบโตจากรายได้ประจำลูกค้าใหม่ (New MRR) และรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าที่สูงขึ้น (ARPA) และกลยุทธ์การเจาะลูกค้ารายใหญ่ ประเมิน Fair value สิ้นปี 66 ที่ 9.3 บาท อิง PE เฉลี่ยของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในตลาด MAI ที่ 33.4 เท่า

Back to top button