BEM กำไรปี 65 โตเกินเท่าตัว ทะลุ 2.4 พันลบ. รับยอดผู้โดยสารเพิ่ม หนุนรายได้พุ่ง

BEM เปิดกำไรปี 65 โต 141%แตะ 2.44 พันลบ. จากปีก่อนกำไร 1.01 พันลบ. รับรายได้พุ่ง หลังยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้น


บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รายงานผลการดำเนินงานงวดปี 65 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.65 ดังนี้

โดยรายได้จากการดำเนินงาน 14,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 3,304 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.8 โดยรายได้ค่าผ่านทางเพิ่มขึ้น 1,742 ล้านบาท รายได้ค่าโดยสารและรับจ้างเดินรถเพิ่มขึ้น 1,463 ล้านบาท และรายได้พัฒนาเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 99 ล้านบาท

ทั้งนี้รายได้จากธุรกิจทางพิเศษ 8,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,742 ล้านบาท หรือร้อยละ 27 จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนในทุกสายทาง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ทำให้การดำเนินกิจกรรมของทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ รวมถึงการเรียนการสอนค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้การเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ปีก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรง โดยปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนในปี 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,040,000 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 22.4 นอกจากนี้การปรับค่าผ่านทางของสายทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ส่งผลให้การเติบโตของรายได้เพิ่มมากกว่าการเติบโตของปริมาณรถ

รวมทั้งรายได้จากธุรกิจระบบราง 4,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,463 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.4 โดยรายได้ค่าโดยสารโครงการสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้น 1,213 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 81.4 และรายได้รับจ้างเดินรถโครงการสายสีม่วงเพิ่มขึ้น 250 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่ก าหนดในสัญญาสัมปทาน ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยในปี 65 อยู่ที่ 270,617 เที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 84.5 ซึ่งหากพิจารณาแนวโน้มในแต่ละเดือนจะพบว่าช่วงครึ่งหลังของปีมีการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้บริการเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 300,000 – 350,000 เที่ยวต่อวัน และในวันทำการมากกว่า 400,000 เที่ยวต่อวัน และคาดการณ์ว่าในปี 66 การเติบโตของผู้โดยสารยังคงมีอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยบวกของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

อีกทั้งรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 921 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 99 ล้านบาท หรือร้อยละ 12 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ให้เช่าพื้นที่ร้านค้าปลีกใน Metro Mall และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่โฆษณาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการโครงข่ายตามที่กำหนดในสัญญาสัมปทานในส่วนต้นทุนของธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ 343 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 59 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.8 ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้

Back to top button