TFG วางเป้ารายได้ปี 66 โต 15% เร่งบุกร้านค้าปลีกสู่ 400 สาขา

TFG วางเป้ารายได้ปี 66 โต 15% บุกธุรกิจร้านค้าปลีก “ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรชมาร์เก็ต” ลุยขยายเพิ่มเป็น 400 สาขาภายในปีนี้ รองรับดีมานด์ วางงบลงทุน 3-3.5 พันล้านบาท รับแผนขยายฟาร์มหมู-ไก่ในเวียดนาม


นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2565 มีรายได้รวม 52,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 35,503 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 741% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน 562 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อแข็งแกร่ง สอดรับดีมานด์หมูและไก่ที่เพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้ทั่วโลกคลายล็อกดาวน์  อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาที่ขยับเพิ่มขึ้นด้วย

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติจ่ายปันผลจากงวดผลการดำเนินงานในปี 2565 เป็นเงินสดในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น Yield เงินปันผลสูง 5.5% (จ่ายระหว่างกาล 0.10 บาท คิดเป็น Yield เงินปันผลรวม 7.3%) โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% โดยบริษัทฯเตรียมขยายตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขาย นอกเหนือจากโมเดลธุรกิจในส่วนของธุรกิจค้าปลีกที่จะกลายเป็นอีกแรงสนับสนุนให้ภาพรวมเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้

ทั้งนี้ ในปี 2566 บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานธุรกิจค้าปลีกภายใต้แบรนด์ “ร้านไทย ฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต “มากขึ้น เพื่อเพิ่มมาร์จิ้น โดยมีแผนเปิดสาขาใหม่ เพิ่มเป็น 400 สาขาภายในปีนี้ (จากสิ้นปี 2565 มีประมาณ 220 สาขา) เพื่อรองรับความต้องการลูกค้า

นอกจากนี้ ในปี 2566 บริษัทฯเตรียมงบลงทุนประมาณ 3,000 – 3,500 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนขยายโรงงานผลิตอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงหมูในประเทศเวียดนาม, เสริมศักยภาพธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ในประเทศเวียดนาม รวมถึงการขยายสาขาในส่วนของธุรกิจค้าปลีก ตลอดจนปรับปรุงธุรกิจในส่วนต่างๆ หวังเสริมศักยภาพของการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

นายวินัย กล่าวอีกว่า ธุรกิจไก่และหมูของบริษัทฯในปีนี้ยังดีต่อเนื่อง จากปัญหาการขาดแคลน ซึ่งทำให้แนวโน้มราคาหมูและไก่จะยืนสูงต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับปัจจัยหนุนจากจากการขยายกำลังการเลี้ยงหมูในไทย และเวียดนามที่เพิ่มขึ้น และเน้นขายไก่ไปสู่ช่องทางที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางการส่งออกไก่สู่ต่างประเทศ สนับสนุนให้รายได้รวม และประสิทธิภาพการทำกำไรดีต่อเนื่อง

Back to top button