IHL โกยรายได้ปี 65 ทะลุ 2 พันล้าน แจกปันผล 0.10 บ. ปักธงปี 66 ลุยธุรกิจใหม่เต็มสูบ
IHL เปิดกำไรปี 65 แตะ 99.93 ล้านบาท โกยรายได้ปี 65 ทะลุ 2 พันล้านบาท จ่ายปันผล 0.10 บ. ขึ้น XD 28 เม.ย.66 และจ่ายปันผล 18 พ.ค.66 พร้อมปักธงปี 66 ลุยธุรกิจหลักและขนมขบเคี้ยวสุนัข-คอลลาเจน โชเจน ดันผลงานโตต่อเนื่อง
นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,070.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 1,720.44 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 99.93 ล้านบาท ลดลง 29% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 140.74 ล้านบาท
โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักมีคำสั่งซื้อ (Order) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และสามารถดำเนินการผลิตได้ตามปกติ รวมถึงมีรายได้จากธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจฟอกหนังรองเท้าที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 ยังสามารถทำผลงานเป็นที่น่าพอใจจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจน ประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและถึงช่วงเวลาที่ต้องเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ รวมถึงยอดจองค่ายรถยนต์พันธมิตรรายใหญ่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2565 ที่ผ่านมามีการตอบรับที่ดีมาก จึงทำให้ IHL มีออเดอร์ในการผลิตเบาะหนังรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งธุรกิจใหม่ ก็เริ่มรับรู้รายได้เพิ่มมากขึ้น” นายองอาจกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 59.28 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date)ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 28 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 รวมถึงการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 24 เมษายน 2566
ด้าน นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการ และผู้จัดการทั่วไป IHL กล่าวว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ธุรกิจผลิตเบาะหนังรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ยังมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องในของส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่ ทั้งธุรกิจฟอกหนังรองเท้า ปัจจุบันมีลูกค้า 4 ราย และอยู่ระหว่างการเจรจาอีกหลายราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนอีก 1-2 ราย ภายในปีนี้
ส่วนธุรกิจผลิตหนังเฟอร์นิเจอร์ ยังมีออเดอร์การรับจ้างผลิตอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์โซฟา ภายใต้แบรนด์ “ALEX” ซึ่งเป็นโซฟา ที่ผลิตจากหนังวัวคุณภาพพรีเมี่ยม ปัจจุบันมีโชว์รูมอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางนา ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น
อีกทั้งธุรกิจอาหารเสริมแบรนด์ “Chojen” (โชเจน) คอลลาเจน จากหนังวัว ของบริษัท อินเตอร์กรีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง https://www.facebook.com/ChojenOfficial,IG : https://www.instagram.com/chojen_official/, add line : @chojen มียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และการจำหน่ายในรูปแบบวัตถุดิบให้กับผู้ผลิตรายอื่นๆ สามารถทยอยรับรู้รายได้ทันที
สำหรับธุรกิจขนมขบเคี้ยวสุนัข ภายใต้แบรนด์ “MOMO & FRIENDS” มีวางจำหน่ายใน ท็อปส์ มาร์เก็ต (Tops market) ทุกสาขา รวมทั้ง ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งwww.facebook.com/MomoFriends.official/,instagram.com/momoandfriendsth?igshid=YmMyMTA2M2Y=, LINE ID : lin.ee/N33Sarq,SHOPEE และ LAZADA รวมทั้งบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายไปยังห้างโมเดิร์นเทรดเพิ่มเติม โดย อยู่ระหว่างการเจรจาทางธุรกิจ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 1/2566
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เตรียมจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศในรูปแบบรับจ้างผลิต (OEM) เพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันมีการส่งออกไปยังประเทศเกาหลี และมีการส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบหนังวัวไปยังประเทศเวียดนาม และกัมพูชา จึงมั่นใจว่า ปัจจัยเหล่านี้ จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนผลงานในปี 2566 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้