ดักเก็บ 14 หุ้นธีม “ซัมเมอร์ เพลย์” ล็อกเป้ากลุ่ม “เครื่องดื่ม-ค้าปลีก” รับอานิสงส์เต็ม
ดักเก็บ 14 หุ้นเด่นธีม “ซัมเมอร์ เพลย์” ล็อกเป้า “เครื่องดื่ม-ค้าปลีก-ห้างสรรพสินค้า” รับอานิสงส์เต็ม โบรกชี้จากสถิติก่อนเข้าหน้าร้อน 1 เดือน หุ้นให้ผลตอบแทนเป็นบวก 5.6% นำทีม CBG, ICHI, OSP, SNNP, TACC, RBF, MALEE, MINT, CENTEL, GLOBAL, CPALL, CRC, SAPPE, STEC
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมหุ้นที่น่าสนใจและได้ประโยชน์ไทยเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าฤดูร้อนในปีนี้จะเริ่มขึ้นประมาณปลายเดือนก.พ. และจะไปสิ้นสุดช่วงกลางเดือนพ.ค.66 โดยอากาศจะร้อนอบอ้าวและจะร้อนจัดในหลายพื้นที่ คาดการณ์ว่าจะร้อนกว่าปีที่แล้ว
โดยในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงประมาณกลางมีนาคมนั้น หลายพื้นที่จะเริ่มมีอากาศร้อนขึ้นในตอนกลางวัน ส่วนช่วงกลางเดือนมีนาคมไปจนถึงปลายเดือนเมษายน จะเป็นช่วงที่บ้านเรามีอากาศร้อนอบอ้าวเป็นระยะๆ และมีอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40-43 องศาเซลเซียส
ด้านบริษัท หลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากรณีกรมอุตุฯ ประกาศไทยจะเข้าช่วงฤดูร้อนปลายก.พ.นี้ และช่วงพีคเม.ย.-พ.ค.อยู่ที่ 40-43 องศา โดยคาดหมายจะเป็นอีกปีที่ร้อนกว่าปกติ และในช่วงปีนี้มีโอกาสที่ประเทศไทยจะเข้าอยู่ในสภาวะ “เอลนีโญ” โดยปัจจัยดังกล่าวซึ่งเชื่อว่าน่าจะสร้างโอกาสเห็นอัพไซด์ Upside หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์ในปี 66 ได้แก่ เครื่องดื่ม,ค้าปลีก, ห้างสรรพสินค้า และก่อสร้าง
ดังนั้นแนะนำลงทุนธีมซัมเมอร์เพลย์(Summer Play) สำหรับหุ้นเด่น คือ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG,บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP, บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหชน) หรือ SNNP (น้ำกัญชง),บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC, บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF และบริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE
รวมทั้งบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL ,บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL,บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC, บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC
โดยผลตอบแทนหุ้นธีม Summer Play ย้อนหลัง 5 ปี พบว่า หุ้นมักเคลื่อนไหวดีช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเข้าฤดูร้อน (ความเป็นไปได้ 60% ให้ผลตอบแทนเป็นบวกระหว่าง 5.0%-2.3%), 2 สัปดาห์(ความเป็นไปได้ 60% ให้ผลตอบแทนเป็นบวกระหว่าง 5.6%-3.1%), 1 เดือน (ความเป็นไปได้ 60% ให้ผลตอบแทนเป็นบวกระหว่าง 14%-3.3%), 2 เดือนหลังเข้าสู่ฤดูร้อน (ความเป็นไปได้ 60% ให้ผลตอบแทนเป็นบวกระหว่าง 9.6-3.8%)
สำหนับ ICHI แนะนำราคาเป้าหมาย 15.60 บาท ปัจจัยพื้นฐานที่เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/65จากตลาดชาเขียวกลับมาโต พร้อมกับกลยุทธ์คงราคาที่ผลตอบรับดี รวมถึง สินค้าใหม่ “ตันซันซู” กระแสแรงสุดรอบ 7 ปีของสินค้าใหม่ ผสาน โครงสร้างเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว และต้นทุนวัตถุดิบทยอยปรับลง จะส่งผลบวกต่อทั้งรายได้และอัตรากำไร โดยคาดกำไรปี 66 แตะ 723 ล้านบาท โต 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านหุ้นซื้อขาย PER 23F ที่ 22 เท่า ยังต่ำกว่ากลุ่มเครื่องดื่มซึ่งสูง 25-30 เท่า และมี Dividend Yield คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(ยีลด์) สูง 4.8% ขณะที่หุ้นยังอยู่ในโมเมนตัม Upgrade จากตลาด คาดปันผลสูง ประกาศปลายก.พ.ใกล้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์เกาหลี 1 มี.ค. “ตันซันซู” ซึ่งกระแสอากาเซ่ มาแรงมาก เริ่มเห็นการสนับสนุนสินค้า
ส่วน OSP ราคาเป้าหมาย(Max consensus 35 บาท) เป็นรายใหญ่ในธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังด้วยมาร์เก็ตแชร์เกิน 50% พร้อมธุรกิจอุปโภคบริโภคอื่น ซึ่งมีแบรนด์แกร่ง ประเมินกำไรปี 66 เติบโตจากฐานต่ำ คาดที่ 2.8 พันล้านบาท โต 45%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง คาดจะได้ market share กลับมาราว 1-2% จากผู้บริโภคเริ่มยอมรับราคา 12 บาท ได้มากขึ้น และกระทิงแดงปรับขึ้นราคาเท่ากัน ทำให้ประมาณการมี upside risk ราว 4-5% อีกทั้ง GPM คาดค่อยๆเพิ่มจากการปรับปรุงประสิทธิภาพ และราคาก๊าซธรรมชาติเริ่มปรับตัวลดลง
ด้านราคาหุ้นซื้อขายบน PER23F 34 เท่า และปันผลราว 3% ต่อปี (มีประกาศปันผลครึ่งหลังปี 65 หุ้นละ 0.45 บาท XD 3 พ.ค. จ่าย 25 พ.ค.66 ปีนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะเอลนีโญ (แห้งแล้งและร้อนกว่าปกติ) เป็นบวกต่อกลุ่มเครื่องดื่ม และส่วนแบ่งทางการตลาดมีโอกาสกลับมาเพิ่มขึ้นหลังคู่แข่งขึ้นราคา
ส่วน SAPPE แนะนำราคาเป้าหมาย 64 บาท ธุรกิจเห็นจุดเปลี่ยนเชิงบวกชัดเจน ผ่านเป้า 5 ปีนี้เติบโต 3 เท่า (CAGR 22%) จากตลาดต่างประเทศอยู่ในจุดเร่งตัว เร่งจุดจำหน่ายทั้งเอเชีย, ยุโรป, US ประเมินกำไรปี 65 อยู่ที่ 654 ล้านบาท โต 56% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และปี 66 อยู่ที่ 760 ล้านบาท โต 22% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จากยอดขายต่างประเทศโตแรง
ระยะสั้นคาดโมเมนตัมไตรมาส 1/66-ไตรมาส 3/66 จะกลับสู่จุดที่ดีมาก โดยบริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตระดับ 30% ตั้งแต่ต้นปี 66 สะท้อนแนวโน้มยอดขายระดับสูงในต่างประเทศ และเป็นกลุ่ม High margin สนับสนุนทั้งยอดขายและอัตรากำไร
ส่วนราคาซื้อขายค่อนข้างถูกในกลุ่มฯ ที่ PER23F 21 เท่า เทียบกับกลุ่มฯที่สูง 25-30 เท่า โดยปีนี้ประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะเอลนีโญ (แห้งแล้งและร้อนกว่าปกติ) เป็นบวกต่อกลุ่มเครื่องดื่ม และเป็นหุ้นที่ยังน่าสนใจทั้งเชิง Earnings growth ที่โดดเด่นเป็นสินค้าไทยที่เจาะตลาดโลกได้ และเงินบาทเริ่มกลับทิศอ่อนค่า