PRM ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตกว่า 10% รับอานิสงส์ดีมานด์พลังงานเพิ่ม หนุนขนส่งน้ำมันขยายตัว

PRM เปิดงบปี 65 โต 52% รายได้ธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บปิโตรเลียมทางทะเลเพิ่ม-ขยายกองเรือขนส่งระหว่างประเทศ  VLCC 3 ลำ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตกว่า 10% รับอานิสงส์ดีมานด์พลังงานเพิ่ม หลังเศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนขนส่งน้ำมันขยายตัว


นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรือรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่าบริษัทฯ สร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง  โดยมีรายได้รวม 7,715.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.21 %  เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 5,879.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,323.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,526.54 ล้านบาท

โดย ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากพอร์ตกองเรือที่หลากหลาย และมีฐานลูกค้าแข็งแกร่ง โดยกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศมีอัตราขยายตัวได้อย่างโดดเด่น จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในขณะที่กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและจัดเก็บปิโตรเลียมทางทะเล (FSU) ที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว รวมถึงจากการขยายกองเรือขนส่งระหว่างประเทศขนาด VLCC 3 ลำ ซึ่งสามารถรับรู้รายได้ครบทุกลำเต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังรับปัจจัยเชิงบวกที่ภาครัฐมีนโยบายผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งทำให้อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศมีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมันดีเซล และน้ำมันเครื่องบิน Jet A1

ผลการดำเนินงานในปี 2565 เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งเป็นผลจากการบริหารพอร์ตกองเรือซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ รวมถึงการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯสามารถทำอัตรากำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นและสนับสนุนให้ผลงานของเราเติบโตได้ดี สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี” นายวิริทธิ์พล กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากสัญญาณภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัว หลังสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นและการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเชื้อเพลิงภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อการดำเนินงานของ PRM ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจะรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

Back to top button