CIVIL กวาดรายได้ปี 65 ทะลุ 6 พันล้าน กำไรแตะ 64 ล้าน แจกปัน 0.02 บ. XD 3 พ.ค.
CIVIL กวาดรายได้ปี 65 ทะลุ 6 พันล้าน กำไรแตะ 64 ล้าน แจกปัน 0.02 บ. XD 3 พ.ค. จ่าย 24พ.ค.66 มั่นใจผลงานปี66 โตดี พร้อมลุยประมูลงานต่อเนื่อง
นายปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำด้านวิศวกรรมโยธาที่ใช้เทคโนโลยีก่อสร้างแบบครบวงจรชั้นนำของไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 4/2565 บริษัทมีรายได้รวม 1,466 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,327 ล้านบาท จำนวน 139 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 10.5 % และ มีกำไรสุทธิ 62.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.5 ล้านบาท จำนวน 40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 177.8 %
ขณะที่ผลประกอบการปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 6,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 5,063 ล้านบาท จำนวน 1,032 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 20.4% และ มีกำไรสุทธิ 64.5 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 192.7 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการตีความขอบเขตงานก่อสร้างตามแบบของโครงการในกลุ่มงานรถไฟ ในไตรมาส 3/2565 โดยเป็นการปรับปรุงต้นทุนงานก่อสร้างเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นแบบครั้งเดียว
ทั้งนี้ ผลประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความคืบหน้าในโครงการก่อสร้างของภาครัฐต่างๆ อาทิ รถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง, งานถนน, งานทางพิเศษ, งานสนามบิน และ งานเขื่อน โดยมีสัดส่วนการรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างหลัก ได้แก่ งานกลุ่มรถไฟ 48%, กลุ่มงานทาง 39% และ งานก่อสร้างกลุ่มอื่นๆ 13%
ด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.02 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 14 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 อยู่ที่ 30.5% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 3 พ.ค.66 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ทั้งนี้จะมีมติอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 25 เมษายน 2566
“สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2566 บริษัทมุ่งพัฒนาการดำเนินงานในกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีความเชี่ยวชาญ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานก่อสร้างให้รวดเร็วและส่งมอบงานตามกำหนดเวลา บริหารจัดการต้นทุนก่อสร้าง พร้อมเพิ่มโอกาสการเข้ารับงานใหม่ที่จะส่งผลต่อการรับรู้รายได้ในมือ (Backlog) ให้เติบโตต่อเนื่อง อาทิ งานถนน, งานสะพาน, งานก่อสร้างทางรถไฟและงานสาธารณูปโภคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมถึงงานระบบชลประทาน และ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน โดยเป็นการปรับราคาต้นทุนสะท้อนตามจริง นอกจากนี้บริษัทมุ่งเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อต่อยอดธุรกิจใหม่ และอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมงานก่อสร้าง ให้มีความทันสมัยและยั่งยืน ซึ่งจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวทำให้มีความมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของบริษัททั้งรายได้และกำไรให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี” นายปิยะดิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม