COLOR เปิดงบปี 65 กำไรทะลุ 59 ลบ. แจกปันผล 0.08 บ. XD 3 พ.ค.นี้
COLOR ปิดงบปี 65 กำไรแตะ 59.10 ลบ. อานิสงส์ยอดขายเม็ดพลาสติกโตต่อเนื่อง -ประเดิมเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย ธุรกิจพลังงานทดแทน และธุรกิจการเกษตร พร้อมแจกปันผล 0.08 บ. ขึ้นเครื่องหมาย XD 3 พ.ค.นี้
นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR ผู้ผลิตและจำหน่ายเม็ดพลาสติกมาสเตอร์แบตซ์ เม็ดพลาสติกคอมพาวด์ และสีผสมพลาสติกชนิดผง เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565) มีกำไรสุทธิ 59.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.76% เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 57.51 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.63% เทียบปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,189 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ของปี 2565 มีกำไรสุทธิ 13.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154% จากปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 5.16 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.63% เทียบปีที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,189 ล้านบาท
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจาก งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.65 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.65 และกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค.66 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พ.ค.66
โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกที่มีคำสั่งซื้อในเทศกาลต่างๆ พร้อมทั้งเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) และธุรกิจภาคการเกษตร “ถุงห่อ Magik growth” และ “ฟิลม์คัดกรองแสง” เข้ามาสนับสนุน ประกอบกับบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
สำหรับบริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) เพื่อใช้สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating PV System) และเป็นผู้ออกแบบติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์อย่างครบวงจร เช่น Solar roof, Solar farm, Storage Battary และระบบการจ่ายรถยนต์ไฟฟ้า (Ev charger)
“ผลประกอบการโดยรวมของปี 2565 บริษัทฯ ยังสามารถทำผลงานได้ดี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/65 ยังเห็นกำลังซื้อจากคำสั่งซื้อสินค้าของกลุ่มลูกค้า Packaging ในธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก จากเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีน ขณะที่เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจที่ได้ขยายไลน์ออกมาบางส่วนด้วย จึงทำให้ปี 65 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โต 10%” นายพีรพันธ์ กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ว่าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 20–25% โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่แตกไลน์ออกมา และรายได้หลักจะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทน ผ่านบริษัทย่อย บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ ผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำ (Floating Solar) เพื่อใช้สำหรับระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนทุ่นลอยน้ำ (Floating PV System)
ทั้งนี้บริษัทฯ มีการเข้าร่วมประมูลโครงการรวมมูลค่า 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลในเร็วๆนี้ และคาดว่า จะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/66 รวมทั้งยังมีการประมูลเพิ่มเติม และการร่วมมือกับพันธมิตรในการรับงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะที่ธุรกิจภาคการเกษตร “ถุงห่อ Magik growth ” และ “ฟิลม์คัดกรองแสง” ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกหลายราย ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มรายได้จากธุรกิจเดิม นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการลงทุนธุรกิจใหม่ และโอกาสการลงทุนใหม่ๆ อีกด้วย