TVI ปี 65 เบี้ยรับนิวไฮทะลุ 7.3 พันล้าน แจกปันผล 0.29 บ. XD 16 มี.ค.นี้

TVI ปี 65 เบี้ยรับรวมทะลุเป้า 7.3 พันล้าน โต 15% ขยายตัวโดดเด่นทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor เคาะแจกปันผล 0.29 บ. ขึ้นเครื่องหมาย XD 16 มี.ค.นี้


นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ผู้นำด้านนวัตกรรมประกันภัย เปิดเผยว่า ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.29 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิ (XD) วันที่ 16 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 จากภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 216 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโต 15.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนแตะ 6,252 ล้านบาท ตามเบี้ยประกันภัยรับรวมที่สถิติสูงสุดครั้งใหม่ เติบโตทะลุเป้าหมายแตะ 7,307 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นราว 15.4% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน

โดยสาเหตุสำคัญมาจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) เพิ่มขึ้น 16.4% แตะ 6,094 ล้านบาท โดยเฉพาะประกันรถเปิด-ปิด ที่ยังคงได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับเบี้ยประกันภัยกลุ่ม Non-Motor ที่เพิ่มขึ้นราว 11.0% แตะ 1,213 ล้านบาท จากความมุ่งมั่นคิดค้น พัฒนา นวัตกรรมใหม่ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว ภายใต้สโลแกน “คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต”

สำหรับค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยเพิ่มขึ้นราว 20% อยู่ที่ 5,265 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นราว 10% อยู่ที่ 856 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับ นับเป็นการตอกย้ำขีดความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพระดับสูงต่อเนื่อง จากการนำ Big Data และเทคโนโลยีมาเข้าปรับใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานบริการ และเพิ่มความแม่นยำระบบคัดกรองความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้อัตราค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) อยู่ที่ระดับ 60.1%

ส่วนทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ ยังมุ่งเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่ม Motor และ Non-Motor เพื่อยกระดับคุณภาพทุกชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้ยุทธศาสตร์ “องค์กรด้านประกันภัยแห่งนวัตกรรม” ตั้งเป้าผลักดันเบี้ยรับรวมเติบโตแตะ 8,000 ล้านบาท สร้างสถิติใหม่ต่อเนื่อง โดยกลุ่ม Motor เตรียมยกระดับบริการ ด้วยการเน้นศักยภาพและเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ สร้างความแตกต่างที่เชื่อมต่อทุกจังหวะการใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ พร้อมขยายฐานลูกค้าประกันภัยรถยนต์ให้กว้างมากขึ้น ด้วยการพัฒนาประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

ขณะที่กลุ่ม Non-Motor เตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่วนบุคคลให้มีความหลากหลาย พร้อมเดินหน้าขยายตลาดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ และจังหวัดพื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญ เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้ดี ควบคู่ไปกับการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อต่อยอดการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน ภายใต้การเป็นผู้นำด้าน InsurTech

Back to top button