BANPU ชูกลุยุทธ์ Greener & Smarter ลุย 3 ธุรกิจ มุ่งเป้า Net Zero ปี 68
BANPU เดินหน้ากลุยุทธ์ Greener & Smarter ปี 66-68 รุก 3 ธุรกิจกลุ่ม “ผลิตพลังงาน-ไฟฟ้า-เทคโนโลยีพลังงาน” หวังก้าวสู่ Net Zero เพื่อสร้าง New S-Curve ใหม่ มั่นใจเติบโตอย่างก้าวกระโดด
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ เผยผลการดำเนินธุรกิจปี 2565 โดยมีรายได้จากการขายรวม 7,693 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 272,270 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3,570 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 139,080 ล้านบาท) คิดเป็น 87% มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 3,916 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 137,300 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 120% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 1,162 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 40,519 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 282% ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานโลก ประกอบกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจด้วยความคล่องตัวและยืดหยุ่น ทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงเพื่อสร้างผลกำไรและกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2566 บ้านปูยังคงเดินหน้าเร่งเปลี่ยนผ่านธุรกิจ (Banpu Transformation) ภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter เพื่อส่งมอบอนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน
ด้าน นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าวว่า ในปี 2565 เป็นปีที่บ้านปูมีผลประกอบการที่ดีเป็นประวัติการณ์ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสามเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นอกจากอานิสงส์ที่ได้รับจากราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูงแล้ว บริษัทยังเน้นการดำเนินงานที่คล่องตัวและยืดหยุ่นในทุกหน่วยธุรกิจ รวมถึงการเร่งขยายธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างจริงจังตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่องจากธุรกิจพลังงานที่สะอาดขึ้น เช่น การขยายธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา และการขยายพอร์ตธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานในเอเชียแปซิฟิก ควบคู่ไปกับการหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานซึ่งเป็นจุดแข็งของบ้านปูในปัจจุบันและธุรกิจที่นอกเหนือจากพลังงานเพื่อสร้าง New S-Curve ใหม่ๆ
ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจยังคงคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหัวใจหลัก โดยในปี 2565 บ้านปูได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 และล่าสุดได้รับคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI Global Standard ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลก
สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในปี 2566-2568 นี้ บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตตามกลยุทธ์ Greener & Smarter โดยวางแนวทางสำคัญสำหรับ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้
กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน สำหรับ ธุรกิจเหมือง ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เน้นประสิทธิภาพการผลิตเพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพ ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น แร่แห่งอนาคต (Strategic Minerals) ทางด้าน ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ คงความเป็นผู้นำในการผลิตก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา แสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจที่ส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่ และพัฒนาโครงการดักจับและการกักเก็บคาร์บอน ดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก scope 1 และ 2 ภายในปี 2568
กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน เพิ่มมูลค่าและรักษาประสิทธิภาพการผลิตในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า การซื้อขายไฟฟ้าในตลาดไฟฟ้าเสรี มองหาโอกาสการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions: HELE) ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน มองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มในประเทศยุทธศาสตร์ที่บ้านปูดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว
กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในพอร์ตธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสด ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่ส่งเสริมศักยภาพและการเติบโตซึ่งกันและกัน ตลอดจนแสวงหาการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ (New S-Curve)
ทั้งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้เพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้นในบริษัท ดูราเพาเวอร์ โฮลดิ้งส์ จํากัด (Durapower) จากร้อยละ 47.68 เป็น ร้อยละ 65.10 ด้วยเงินลงทุน 70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตของธุรกิจแบตเตอรี่ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งในการเชื่อมโยงระบบนิเวศที่แข็งแกร่งภายในกลุ่มบริษัทบ้านปู
“ปี 2566 บ้านปูจะมีอายุครบ 40 ปี เรายังคงเดินหน้านำเสนอโซลูชันด้านพลังงานที่ดีที่สุดต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ให้แข็งแกร่ง และขยายการลงทุนที่ตอบโจทย์โลกแห่งอนาคต ทั้งนี้เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับโลกและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม (Better Living for All) ซึ่งเป็นไปตามพันธสัญญา “พลังบ้านปู สู่พลังงานที่ยั่งยืน (Our Way in Energy)” นางสมฤดี กล่าว