AMATA มั่นใจปี 66 สดใส! ตั้งเป้าขายที่ดิน “ไทย-เวียดนาม” ใหม่เกิน 2,000 ไร่

AMATA มั่นใจปี 66 สดใส ปรับเป้าขายที่ดินใหม่ขึ้น 50% โดยเป้าใหม่ในประเทศไทยเป็น 1,500 ไร่ และเวียดนามจะเป็น 750 ไร่ พร้อมจัดเงินลงทุนในปี 66 ในประเทศไทย  5,000-6,000 ล้านบาท หลังกำไรสุทธิปี 65 อยู่ที่ 2,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% จากปีก่อน กดค่า D/E ปี 65 ลดลงเหลือ 1.19 เท่า


นายวิบูล กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ร่วมนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ ภายในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566 กล่าวถึงประเด็นของการลงทุนในช่วงปี 2565 เพื่อขับเคลื่อนให้บริษัทเติบโตยั่งยืน ว่ามีการเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว มี 2 โครงการ คือ โครงการ AMATA Smart And Eco City Natuey สัญญาสัมปทานฉบับแรกพื้นที่ 2,562.5 ไร่ และโครงการ  AMATA Smart And Eco city Namar สัญญาสัมปทานฉบับสองพื้นที่ 19,687 ไร่

พร้อมกับบริษัทมีการเปิดตัวธุรกิจการให้บริการโรงแรมใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมชนบุรี ใช้ชื่อว่า โรงแรมนิกโก้ อมตะซิตี้ ชลบุรี ร่วมลงทุนระหว่างอมตะ และรัฐบาลญี่ปุ่น โดยเป็นโรงแรมสีดาวมีจำนวนห้องรวมประมาณ 220 ห้อง  และธุรกิจถัดมาเป็นสถานะการบริโภคลงนามกับทาง บริษัท โทรคมนาคมลาว (LTC) นอกจากนี้มีการ MOU บันทึกความเข้าใจกับ บี.กริม เพาเวอร์ เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการ “อมตะ ยูโรเปี้ยน สมาร์ท ซิตี้” (AMATA European Smart City) ใน อมตะซิตี้ ชลบุรี บนพื้นที่ขนาด 200 ไร่ รองรับการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงจากกลุ่มธุรกิจจากทวีปยุโรป

นอกจากนั้น ในช่วงปี 2565 AMATA มีการออกหุ้นกู้ 3 ชุดประกอบด้วยหุ้นกู้ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 มีอายุ 1 ปี มูลค่า 850 ล้านบาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.05% ต่อปี, หุ้นกู้ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอน ปี 2567 มีอายุ 2 ปี มูลค่า 700 ล้านบาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 2.68% ต่อปี

ส่วนชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 มีอายุ 3 ปี มูลค่า 450 ล้านบาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 3.05% ต่อปี โดยวันกำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ  6 เดือนในวันที่ 3 เม.ย. และวันที่ 3 ต.ค. ของแต่ละปีตลอดอายุหุ้นกู้ โดยวันชำระดอกเบี้ยงวดแรกคือวันที่ 3 เม.ย. 2566

อีกทั้ง  AMATA ยังมีการลงทุนไปแล้วในปี 2565 ทั้งหมด 4 ประเทศ ได้แก่ ในประเทศไทย เวียดนาม พม่า และสปป.ลาว  รวมบนพื้นที่ทั้งหมด 88,600 ไร่ ซึ่งมีจำนวนโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่มากกว่า 1,400 โรงงาน โดยกลุ่มธุรกิจแบ่งออกเป็น 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มแรกการพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มที่ 2 การอุปโภคบริโภค เช่น โรงไฟฟ้า, บำบัดน้ำ, กลุ่มที่ 3  การให้บริการในนิคมอุตสาหกรรม เช่น โรงแรม โรงเรียน และโรงพยาบาล และกลุ่มที่ 4. เน้นการลงทุนในต่างประเทศ

นายวิบูล กล่าวอีกว่า ในส่วนผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทสามารถทำรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 8,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 2,341 ล้านบาท  ส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์ว่ามีการโอนที่ดิน 616 ไร่ ส่งผลให้มี Backlog อยู่ที่ 6,685 ล้านบาท

โดยรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายที่ดินจำนวน 2,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 2,196 ล้านบาท  รวมถึงการรับรู้รายได้จาก Utilities & Serelices จำนวน 2,801 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 1,977 ล้านบาท ซึ่งมาจากการบริโภคเพิ่มขึ้นจากในประเทศเวียดนาม และมีรายได้จากโรงงานให้เช่าจำนวน 1,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 745 ล้านบาท

ทั้งนี้ในปี 2565 AMATA มีการขายที่ดินไปแล้วจำนวน 693 ไร่ และมีการโอนที่ดินแล้ว 616 ไร่ แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในชนบุรี จำนวน 10,143 ไร่ และมีที่ดินในพื้นที่ระยอง จำนวน 2,318 ไร่ อีกทั้งมี Backlog ณ สิ้นปี 2565 จำนวน 6,685 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนในประเทศไทยจำนวน 4,800 ล้านบาท  และในประเทศเวียดนามจำนวน 1,800 ล้านบาท

โดยผลดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 2,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,402 ล้านบาท ขณะที่ ROA อยู่ที่ 8.81% ส่วน ROE อยู่ที่ 12.59% รวมถึง Netgearing Ratio อยู่ที่ 0.55 เท่า และ D/E ปี 65 ลดลงเหลือ 1.19 เท่า

นอกจากนี้ บอร์ดได้มีมติเห็นชอบเพื่อให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ เรื่องการจ่ายเงินปันผลสำหรับปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาทให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 ที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท จะมีอัตราเงินปันผลคงเหลือในงวดนี้เท่ากับหุ้นละ 0.40 บาท

นายวิบูล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับทิศทางในปี 2566 เป็นปีแห่งท้าทายต่อไปหลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถทำผลการดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งปีนี้ที่เคยตั้งเป้าหมายว่าจะขายที่ดินได้จำนวน 1,500 ไร่ ทั้งนี้มีในประเทศไทยจำนวน 1,000 ไร่ และในประเทศเวียดนามจำนวน 500 ไร่ โดยทั้งหมดจะมีการปรับใหม่ขึ้นอีก 50%

ทั้งนี้มีการคาดหวังเป้าใหม่ของการขายที่ดินว่าในประเทศไทยจะเป็น 1,500 ไร่ และในเวียดนามจะเป็น 750 ไร่ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากเปิดประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าจากประเทศจีนเป็นหลักในการเข้ามาลงทุน เพราะก่อนหน้าก็เห็นแล้วว่ามีบริษัทที่ผลิตอาหารสัตว์หมา และแมวเบอร์ใหญ่มาตั้งโรงงานอยู่บนพื้นที่ของ AMATA ทั้งหมด และเชื่อว่าในส่วนของธุรกิจอีวีที่บริษัทใหม่เริ่มหาฐานกำลังการผลิตคาดนิคมของอมตะจะเป็นตัวเลือกในการตั้งโรงงานต่อไป

ส่วนเงินลงทุนในปี 2566 วางไว้ในประเทศไทยจำนวน 5,000-6,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการพัฒนาที่ดิน รวมถึงซื้อที่ดินเพิ่มเติมในการรองรับลูกค้า อย่างไรก็ตามยื่นยันว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 จะออกมาสดใส พร้อมกับเชื่อว่าทั้งปี 66 บริษัทเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง

Back to top button