SDC ชนะคดีพิพาทเครือข่าย 3G ศาลสั่ง “ทีโอที” จ่าย 748 ล้าน พร้อมดอกเบี้ย
SDC เผยศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้บริษัทย่อยชนะคดี กรณีบันทึกความเข้าใจในโครงการทดลองการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กับ “ทีโอที” สั่งจ่ายเงิน 748 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า กรณีบันทึกความเข้าใจในโครงการทดลองการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
ล่าสุดวันนี้ (9 มี.ค.) ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้บริษัทย่อยชนะคดี โดยให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ชำระเงิน 748,089,758.33 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้นดังกล่าว นับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่บริษัทย่อยกับให้ชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนบริษัทย่อย โดยกำหนดค่าทนายความ 300,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ใช้แทน ตามทุนทรัพย์ที่บริษัทย่อยชนะคดี ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีให้เป็นพับคำขอยื่นนอกจากนี้ให้ยก
ทั้งนี้ คู่ความทั้งสองฝ่ายมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2566
อนึ่งเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2552 “สามารถ ดิจิตอล” ได้ทำบันทึกความเข้าใจโครงการทดลองการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2554 บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ได้ทำสัญญาโอนสิทธิและหน้าที่ตามบันทึกความเข้าใจโครงการทดลองการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ให้กับ บริษัท ไอ-โมบาย พลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
โดยเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (ปัจจุบัน บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ควบรวมกิจการกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ได้มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อแจ้งให้ กสทช.ทราบล่วงหน้าก่อนแจ้งให้บริษัท ไอ-โมบาย พลัส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทราบถึงการยกเลิกความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจโครงการทดลองการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 บริษัทย่อยได้ยื่นหนังสือแจ้งขอยุติการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ i-mobile 3GX ต่อบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และกสทช. เนื่องจากระบบสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3GX ของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เกิดการขัดข้องบ่อยครั้ง และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถาวรประกอบกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ขยายสถานีฐานตามแผนธุรกิจเพื่อให้มีพื้่นที่ให้บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 กสทช.ได้มีหนังสือถึงบริษัทย่อยเพื่อแจ้งให้ทราบถึงความเป็นชอบให้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่หนึ่งสิ้นสุดรวมทั้งเห็นชอบแผนการดำเนินการเยียวยาให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ i-mobile 3GX ต่อมาบริษัทย่อยได้มีหนังสือถึง กสทช.เพื่อแจ้งยุติการให้บริการอย่างถาวรดังกล่าวในวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ซึ่งได้ตกลงร่วมกันกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ต่อมาบริษัทย่อยได้รับแจ้งจากบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เรียกร้องให้จ่ายค่าระบบลงทะเบียนผู้ใช้ภายในพื้นที่ เป็นจำนวนเงิน 19 ล้านบาท อย่างไรก็ตามผู้บริหารและฝ่ายกฎหมายของบริษัทย่อยมีความเห็นว่าบริษัทย่อยไม่มีภาระที่จะต้องจ่ายชำระเงินค่าระบบดังกล่าว เนื่องจากการจัดเก็บข้อมูลระบบดังกล่าวของบริษัทย่อยมีจำนวนต่ำกว่าโควตาในเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาให้จ่ายชำระและบริษัทย่อยได้ยื่นฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทย่อย ทีโอที จำกัด(มหาชน) ต่อศาลแพ่งตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561