6 หุ้น SET50 แกร่งกว่าตลาด! สวน SET รูดหนัก 26 จุด
เปิด 6 หุ้น SET50 แกร่งกว่าตลาด! สวน SET รูดหนัก 26 จุด นำโดย TU, HMPRO, CPN, BGRIM, CPALL และ PTTEP ด้านนักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.66)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 13 มี.ค.65 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,573.07 จุด ลบ ลดลง 26.58 จุด หรือลดลง 1.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.96 หมื่นล้านบาท จากความกังวลของนักลงทุนที่ยังห่วงผลกระทบของปัญหาของ Silicon Valley Bank (SVB) และ Signature Bank ที่อาจจะส่งผลกระทบตามมาถึงแบงก์อื่นๆได้อีก เป็น sentiment กดดันต่อตลาดหุ้น ทำให้มีการขายสินทรัพย์เสี่ยงออกโยกไปสินทรัพย์ปลอดภัยแทน โดยเฉพาะทองคำ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าภาพรวมดัชนีปรับตัวลงกลับมีหุ้นในตลาดกลุ่ม SET50 วิ่งสวนทางบวกได้แกร่งตลาดจำนวน 6 บริษัท นำโดย TU, HMPRO, CPN, BGRIM, CPALL และ PTTEP ดังตางรางประกอบ
สำหรับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 14.80 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.07 % มูลค่าการซื้อขาย 915.66 ล้านบาท
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 14.20 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.43 % มูลค่าการซื้อขาย 581.73 ล้านบาท
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 65.75 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.15 % มูลค่าการซื้อขาย 895.88 ล้านบาท
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 38.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.66 % มูลค่าการซื้อขาย 412.46 ล้านบาท
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 62.00 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.40 % มูลค่าการซื้อขาย 1.49 พันล้านบาท
บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ราคาหุ้นปิดตลาดอยู่ที่ 146.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.34 % มูลค่าการซื้อขาย 1.81 พันล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังมีความกังวลผลกระทบจากการล้มของ Silicon Valley Bank (SVB) ที่ยังคงต้องติดตามว่าจะลุมลามไปยังธนาคารอื่นๆในสหรัฐหรือไม่ แม้ว่าในช่วงเช้าวันนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศมาตรการฉุกเฉินเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ฝากเงิน และตั้งกองทุนช่วยสภาพคล่อง นับเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น
โดยมีปัจจัยทางฝั่งสหรัฐที่นักลงทุนต้องติดตาม คือ การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐคืนพรุ่งนี้ และทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากเกิดเหตุการณ์ SVB ล้ม
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ร่วงลงรับ Sentiment เชิงลบจากซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งเป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี ปิดกิจการ จากการประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอาจเกิดภาวะเดียวกันกับธนาคารอื่นๆ อีกหรือไม่ ทำให้มีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยออกมาอย่างหนัก ทั้ง KBANK, BBL, SCB ขณะเดียวกันนักลงทุนยังรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.66)
ขณะที่ล่าสุดช่วงท้ายตลาดมีรายงานข่าวว่าหุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ร่วงลงกว่า 60% ในการซื้อขายก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการในวันนี้ ถูกกดดันจากการปิดกิจการซิกเนเจอร์ แบงก์ และ SVB โดยเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ เข้าถึงสภาพคล่องได้กว่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศโครงการ Bank Term Funding Program
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลังนักลงทุนรับรู้ปัจจัยลบดังกล่าวไปค่อนข้างมากแล้ว และพื้นฐานตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่ง รวมถึงนักลงทุนคลายกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยแรง โดยให้น้ำหนักว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% จากเดิมคาด 0.5% ในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ SVB โดยให้กรอบแนวรับ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด