น้ำมัน WTI ปิดเหลือ 74.8 เหรียญ วิตกผลกระทบ SVB ล้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันจันทร์ (13 มี.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารสหรัฐ หลังรัฐบาลสหรัฐสั่งปิดกิจการของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) หรือ SB

สำหรับสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.88 ดอลลาร์ หรือ 2.45% ปิดที่ 74.8 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ดิ่งลง 2.01 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 80.77 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลว่าการล่มสลายของ SVB และ SB จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคาร และลุกลามไปยังธนาคารประจำภูมิภาคของสหรัฐ เช่นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB แม้ว่า FRB มีการดำเนินนโยบายแตกต่างจาก SVB ซึ่งเป็นธนาคารที่เน้นการปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ SB เป็นธนาคารที่ปล่อยกู้ให้กับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี

โดยราคาหุ้น FRB ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 60% แม้กระทรวงการคลังสหรัฐยืนยันว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้กับ SVB และ SB จะสามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มี.ค.เป็นต้นไป ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินจากผลกระทบของการล้มละลายของ SVB และ SB

อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันได้แรงหนุนจากคาดการณ์ที่ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากจีนเปิดประเทศ และการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.95% แตะที่ระดับ 103.5985 เมื่อคืนนี้