บอนด์ยีลด์ 2 ปี รูดหนัก! วิตก “เฟด” ชะลอขึ้นดอกเบี้ย กู้วิกฤตหวั่นซ้ำรอย “เอสวีบี”

บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ 2 ปี และ 10 ปี รูดหนัก 3 วันติดกว่า 1% วิตก "เฟด" ชะลอขึ้นดอกเบี้ย หวังกู้วิกฤตหวั่นซ้ำรอย "เอสวีบี"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการปิดตัวลงของสถาบันการเงิน 3 แห่ง ได้แก่ ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB, Silvergate Capital และ Signature Bank ภายในระยะเวลาเพียงแต่ 1-2 สัปดาห์ โดยต้นเหตุเกิดจากการขาดสภาพคล่องและการปล่อยเงินกู้ให้กับอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง อย่าง Start up หรือ Digital Asset มากจนเกินไป บวกกับผลจากการที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยแรง และอาจจะส่งผลกระทบตามมาถึงแบงก์อื่นๆเป็น sentiment กดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลกและทำให้มีการขายสินทรัพย์เสี่ยงออกและโยกไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยแทนโดยเฉพาะทองคำ

จากผลกระทบดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์ไทยและต่างประเทศออกมาให้มุมมองการประชุมเฟดในวันที่ 21-22 มี.ค.66 มีแนวโน้มจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบซ้ำรอย 3 แบงก์ดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญานเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย Recession มากขึ้น โดยนับตั้งแต่เหตุการณ์แห่ซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้บอนด์ยีลด์ (Bond yield) สหรัฐ 2 ปี และ 10 ปี ปรับตัวลงมาเกิน 1% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน

นอกจากนี้บอนด์ยีลด์สหรัฐ 1 ปี ล่าสุดปรับตัวลงเหลือ 4.38% ซึ่งลงมาต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐที่ปัจจุบันอยู่ที่ 4.75% หมายความว่า ตลาดมอง 12 เดือนข้างหน้าดอกเบี้ยต้องลงมาอย่างน้อย 0.37% พร้อมกับคาดว่าเฟดอาจจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือหากปรับขึ้นก็อาจไม่ถึงกรอบที่เคยวางไว้ 5.75% ในปีนี้

โดยมอร์แกนสแตลีย์ ประเมินว่า การประชุมเฟดในวันที่ 21-22 มี.ค.66 คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ส่วน JPM/Evercore ISI ประเมินว่าจะปรับขึ้น 0.25% ส่วนโกลด์แมน, Barclays, Natwest, PIMCO มองว่าเฟดจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ขณะที่บล.โนมูระ คาดเฟดจะปรับดอกเบี้ยลง 0.25% และอาจไม่มีการขึ้นอีกครั้งต่อไป

ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (14 มี.ค.66) ว่า ตลาดเพิ่มคาดการณ์เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย หลังจากทาง FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 54.2% คาดเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50-4.75% ตามเดิมในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.นี้ เนื่องจากมองว่าปัญหา SVB จะทำให้เฟดตัดสินใจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยไว้ก่อน

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ ว่าปัญหาการปิดตัวลงของสถาบันการเงิน 3 แห่ง (Silvergate Capital, Silicon ValleyBank, Signature Bank) ภายในระยะเวลาเพียงแต่ 1-2 สัปดาห์ โดยต้นเหตุของปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป เกิดจากการขาดสภาพคล่องและการปล่อยเงินกู้ให้กับอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง อย่าง Start up หรือ Digital Asset มากจนเกินไป บวกกับผลจากการที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรง ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ของสถาบันการเงินลดลง ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้อาจขยายวงกว่าไปยังธนาคารต่างๆ ได้เช่นกัน

โดยล่าสุด Fed Watch Tool ให้น้ำหนักสูงถึง 65% และดอกเบี้ยอาจทยอยลดลงในช่วงครึ่งหลังปี 66 เมื่อพิจารณาจากข้อมูลในอดีตประกอบ เห็นได้ว่าในช่วงที่ Fed เร่งปรับลดดอกเบี้ย มักจะเป็นเกิดวิกฤตในช่วงนั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงหลังจากนั้น

ขณะที่ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญานการเกิดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย Recession มากขึ้น นับตั้งแต่เหตุการณ์แห่ซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ Bond yield สหรัฐ 2 ปี และ 10 ปี ปรับตัวลงมาเกิน 1% ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 2 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวลงที่ระดับ 4% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯปรับตัวลงที่ 3.4% การที่พันธบัตรระยะสั้นปรับตัวลงแรงสะท้อนความกังวลต่อการลามของปัญหาในระบบการเงินสหรัฐฯยังมี

Back to top button