เปิด 16 รายชื่อหุ้น mai ยืนบวก! สวน SET รูดหนัก 32 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(14 มี.ค.66) ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET)ภาคบ่ายร่วงต่อ โดย ณ เวลา 15:57 น. อยู่ที่ 1,541.00 จุด ลดลง 32.07 จุด หรือ 2.04% สูงสุดที่ 1,572.36 จุด ต่ำสุดที่ 1,540.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.71 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้น mai ณ เวลา 15.57 น. อยู่ที่ 533.82 จุด ลบ 10.03 จุด หรือ 1.84% สูงสุดอยู่ที่ 547.48 จุด ต่ำสุดอยู่ที่ 532.07 จุด มูลค่าซื้อขาย 2.23 พันล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นขนาดใหญ่ลดความเสี่ยง หลัง”มูดี้ส์” หั่นเครดิต “ซิกเนเจอร์ แบงก์” สู่อันดับขยะ เล็งหั่นอีก 6 แบงก์สหรัฐ

อย่างไรก็ตามมี 16  หลักทรัพย์ตลาด mai ยังปรับตัวขึ้นสวนภาวะตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง ได้แก่ ARIP, TVT, NCL, WARRIX, KK, TMI, MVP, KTMS, GTB, NINE, PSG, ZIGA, UBIS, CHOW, KJL และ PROS

โดยล่าสุดวันนี้”มูดี้ส์” สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ซึ่งเป็นธนาคารในรัฐนิวยอร์กลงสู่ระดับ “C” ซึ่งเป็นระดับขยะ (junk) พร้อมถอนการจัดอันดับในอนาคตสำหรับธนาคารแห่งนี้ หลังธนาคารถูกสั่งปิดแบบกะทันหันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน มูดี้ส์ระบุว่า กำลังพิจารณาที่จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในสหรัฐอีก 6 แห่ง ได้แก่เฟิร์สต์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank), ไซออนส์ บันคอร์ปอเรชั่น (Zions Bancorporation), เวสต์เทิร์น อลิอันซ์ บันคอร์ป (Western Alliance Bancorp), โคเมริกา อิงค์ (Comerica Inc), ยูเอ็มบี ไฟแนนเชียล คอร์ป (UMB Financial Corp) และอินทรัสต์ ไฟแนนเชียล คอร์ปอเรชั่น (Intrust Financial Corporation)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ซิกเนเจอร์ แบงก์ถูกหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบสหรัฐสั่งปิดเมื่อวันอาทิตย์ (12 มี.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ธนาคารล้มครั้งใหญ่สุดอันดับสามของประวัติศาสตร์สหรัฐ โดยเกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐดำเนินการปิดธุรกิจธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) จนทำให้บริษัทและนักลงทุนไม่สามารถทำธุรกรรมใด ๆ กับเงินฝากที่มีมูลค่ามหาศาลได้

ด้านนายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องตอบรับความกังวลต่อวิกฤติธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB ล่มสลายส่อเค้าจะมีปัญหาต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนี Volatility Index หรือ (VIX Index) วัดความผันผวนของตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วภูมิภาคถูกเทขาย

ขณะที่ตลาดยังรอติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีการเปิดเผยออกมาในคืนนี้ หากออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์อาจทำให้ตลาดผ่อนคลายความกังวลทิศทางอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เนื่องจากมีโอกาสหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หยุดขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ และน่าจะเห็นตลาดฯรีบาวด์ขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันหากออกมาสูงจะทำให้ตลาดกลับมากังวลกันอีกว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยแรงหรือไม่ อย่างไร ซึ่งจะกดดันให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงได้ต่อ

แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าดัชนีน่าจะแกว่งไซด์เวย์ออกข้าง เตือนระวังแรงขายต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ให้แนวรับไว้ที่ 1,545-1,530 จุด และแนวต้าน 1,565-1,575 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงตาม Sentiment ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ตอบรับความกังวลปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐลุกลามเป็นวงกว้าง ส่งผลทำให้กองทุนต่างประเทศ (Global Fund) ปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง โดยขายออกมาต่อเนื่อง ทำให้เห็นแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่กองทุนถือ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ถูกเทขายต่อเนื่อง แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะออกมายืนยันว่าแบงก์ไทยลงทุนในธุรกิจ Start-UP ต่ำกว่า 1% ของเงินกองทุนก็ตาม

โดยแนะแนวรับสำคัญวันนี้ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,580 จุด แนะนำ รอดูทิศทางของปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐล่มไปก่อน เกาะติดทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) หากยังคงเทขายวันละ 2,000-3,000 ล้านบาทก็คงต้องชะลอการลงทุนไปก่อนจนกว่าต่างชาติจะหยุดขาย