ครม. ไฟเขียว “กทพ.” สร้างทางด่วนจตุโชติ-ถนนลำลูกกา 2.4 หมื่นลบ.
ครม. อนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย สร้างทางด่วนช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา 2.4 หมื่นลบ. รองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่ กทม.และจังหวัดใกล้เคียง บรรเทาปัญหาจราจรติดขัด คาดเปิดใช้ปี 70
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินโครงการทางพิเศษฉลองรัชส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) เพื่อรองรับการเดินทางและการขนส่งสินค้าระหว่างพื้นที่ กทม.และจังหวัดใกล้เคียง ช่วยบรรเทาปัญหาจราจรติดขัดบนถนนรังสิต-นครนายก และโครงข่ายถนนโดยรอบ รวมถึงเพิ่มทางเลือกการเดินทางของประชาชนระหว่างจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียงเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นใน รองรับการขยายตัวของแหล่งชุมชน ที่อยู่อาศัย สถานศึกษาและนันทนาการของภาครัฐทั้งที่เปิดบริการแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนา
โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุน 24,060.04 ล้านบาท แยกเป็น ค่าจัดกรรมสิทธิที่ดิน 3,726.81 ล้านบาท ส่วนนี้จะใช้จ่ายจากงบประมาณรัฐบาล และค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงาน 20,333.23 ล้านบาท กทพ.จะระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund : TFF) จำนวน 14,374 ล้านบาท และออกพันธบัตรในกรอบวงเงิน 5,960 ล้านบาท
สำหรับลักษณะโครงการจะเป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร (ไป-กลับ) ระยะทาง 16.21 กม. มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัชที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษจตุโชติบริเวณถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพด้านตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) และมุ่งหน้าทางทิศตะวันออกตัดถนนหทัยราษฎร์และถนนนิมิตใหม่ แล้วเลี้ยวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเชื่อมต่อถนนลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
โดยการก่อสร้างโครงการจะมีทางแยกต่างระดับ 1 แห่ง และทางขึ้นลง 3 แห่ง ได้แก่ 1)ทางแยกต่างระดับจตุโชติ 2)ทางขึ้นลงจตุโชติ1และหทัยราษฎร์ 1 3)ทางขึ้น-ลง หทัยราษฎร์ 2 และ 4)ทางขึ้น-ลง ถนนลำลูกกา มีด่านเก็บค่าผ่านทาง 3 ด่าน คือ ด่านจตุโชติ ด่านหทัยราษฎร์ และด่านลำลูกกา
ทั้งนี้ กทพ.จะใช้เวลาดำเนินการก่อสร้าง 5 ปี ระหว่าง 2566-2570 มีแผนงาน ดังนี้ เดือน มี.ค.-ก.ย.66 เสนอร่าง พรฎ.เพื่อจัดกรรมสิทธิที่ดิน คัดเลือกผู้ควบคุมงานก่อสร้างและคัดเลือกผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการ ระหว่างเดือน ต.ค.66-ก.ย.68 ดำเนินการจัดกรรมสิทธิ และระหว่างเดือน ก.ย.67-ส.ค.70 ก่อสร้างโครงการ
สำหรับการดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินตามโครงการฯ ที่ใช้งบประมาณ 3,726.81 ล้านบาทนั้น คำนวณตามราคาประเมิน ณ ปี 2564 ประกอบด้วย พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน 471 ไร่ 99 ตารางวา อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับผลกระทบ 134 หลัง