“ดาวฟิวเจอร์” ร่วง 400 จุด เซ่นหุ้นแบงก์ร่วงยกแผง หลัง “เครดิต สวิส” ทรุดกว่า 20%
"ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์" ร่วงกว่า 400 จุด โดยถูกกดดันจากการทรุดตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ขณะที่ มูดี้ส์ ปรับลดเครดิตระบบธนาคารสหรัฐจาก "มีเสถียรภาพ" สู่ "เชิงลบ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 400 จุดในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการทรุดตัวของหุ้นกลุ่มธนาคารในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ขณะที่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ประกาศปรับลดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐจาก “มีเสถียรภาพ” สู่ “เชิงลบ”
ณ เวลา 17:48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 471 จุด หรือ 1.45% สู่ระดับ 31,931 จุด
ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มธนาคารต่างดิ่งลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด หลังหุ้นเครดิต สวิส ซึ่งเป็นธนาคารสวิสซึ่งมีการดำเนินงานในสหรัฐ ทรุดตัวลงมากกว่า 20%
โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดวานนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากเดือนม.ค. โดยบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักลงทุนขานรับมาตรการของทางการสหรัฐในการคุ้มครองเงินฝาก และจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” เพื่อสกัดวิกฤตการณ์ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB ไม่ให้ลุกลามไปยังสถาบันการเงินอื่นๆ
อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ประกาศปรับลดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐ จาก “มีเสถียรภาพ” สู่ “เชิงลบ” โดยเตือนว่า แม้ทางการสหรัฐออกมาตรการสกัดวิกฤต SVB แต่ธนาคารแห่งอื่นๆ ที่มีตัวเลขขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized losses) หรือผู้ฝากเงินที่ไม่ได้รับการค้ำประกันเงินฝาก จะยังคงเผชิญความเสี่ยงต่อไป
โดยนักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจในคืนนี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และยอดค้าปลีก เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า