ตราสารประกันความเสี่ยง “เครดิตสวิส” พุ่งออลไทม์ไฮ หลังนลท.หวั่นแบงก์สวิสล่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีวานนี้ (15 มี.ค.) ตลาดหุ้นยุโรปสั่งระงับการซื้อขายหุ้นธนาคารเครดิต สวิส หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลงหนักดิ่งกว่า 24% สู่ระดับ 1.70 ฟรังก์สวิส ซึ่งท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานะการเงินของทางธนาคาร โดยเครดิต สวิส ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขาย

ต่อมาจากประเด็นดังกล่าวส่งผลให้ ธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank) หรือ SNB ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเครดิต สวิส ประกาศว่า SNB ไม่สามารถเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อเครดิต สวิส เนื่องจากจะทำให้ SNB ถือหุ้นในเครดิต สวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทำผิดกฎระเบียบธนาคาร

ผลดังกล่าวทำให้เครื่องมือป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ที่เรียกว่า CDS (Credit Default Swaps) ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ระยะเวลา 5 ปีของธนาคารสวิสซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศล่าสุดวันนี้ 16 มี.ค.66 ปรับตัวขึ้นไปแตะ 466.45 จุด ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อให้เกิดความกังวลต่อความเสี่ยงในระบบการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ โดยจากก่อนหน้าช่วงเดือนพ.ย. 65 สำหรับ CDS มีการทำนิวไฮมาแล้วที่ขึ้นไปแตะ 441 จุด ดูได้จากภาพประกอบ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ปัจจุบันของ “ธนาคารเครดิตสวิส” ที่เกิดขึ้น อาจซ้ำรอยคลายกับเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 65 ที่ผ่านมาว่าหุ้นเครดิตสวิส วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ปิดลบ 0.93% แต่ในช่วงเช้าของรอบการซื้อขายในตลาดหุ้นซูริกนั้นร่วงลงไปกว่า 12% หลังจากนั้นทางคณะผู้บริหารของเครดิตสวิสได้พยายามกอบกู้ความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ตลอดมาเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของบริษัทท่ามกลางความวิตกกังวลของนักลงทุน

นอกจากนี้ CDS ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ประกันการผิดนัดชำระหนี้ที่เจ้าหนี้ซื้อกับสถาบันการเงินที่เป็นบุคคลที่ 3 เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเบี้ยวหนี้ของลูกหนี้  ซึ่ง CDS ของเครดิตสวิสปิด 248.76 จุด (วันที่ 30 ก.ย.2565) ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับตัวเลขเมื่อปี 2552 ในช่วงที่เกิดวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์

ส่วนในช่วงต้นปี 65 ที่ผ่านมา CDS ของเครดิตสวิสปรับตัวสูงขึ้นกว่า 300% ซึ่งอยู่ที่ระดับเพียง 60 จุด สร้างความกังวลให้กับตลาดโดยเฉพาะนักลงทุน และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ว่าสถานการณ์ของเครดิตสวิสอาจเข้าใกล้ช่วงวิกฤติหลังจากต้องเผชิญกับปัจจัยด้านลบอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะการขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงใน Greensill และ Archegos

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ประกาศปรับลดมุมมองอันดับความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารสหรัฐจาก “มีเสถียรภาพ” สู่ “เชิงลบ”