BEM-BTS ยิ้มรับผู้โดยสารพุ่ง โบรกฟันธงปี 66 กำไรนิวไฮ!
ดักเก็บ 2 หุ้นขนส่ง ลุ้นกำไรปี 66 นิวไฮ รับปริมาณรถใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ชู BEM ท็อปพิก ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 11.50 บาท และ BTS ให้ราคาเป้าหมายที่ 10 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นรถไฟฟ้า คือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS โดยมองว่าในปี 2566 ทั้ง BEM และ BTS มีอุปสรรคชิ้นใหญ่จากทางการ แต่เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศในหลายประเทศ จึงประเมินว่ายอดผู้โดยสารจะปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานปี 2566 ของทั้ง 2 บริษัทเติบโตแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ในส่วนของ BEM ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในปี 2565 แต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้เซ็นสัญญาโครงการนี้ เพราะในการประชุมของคณะรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะอนุมัติโครงการนี้ เนื่องจากยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล โดยทางคณะรัฐมนตรีอยากให้ศาลมีคำตัดสินออกมาก่อนจึงค่อยอนุมัติให้โครงการนี้เดินหน้าต่อ ซึ่งหมายความว่าการอนุมัติโครงการนี้จะถูกส่งต่อไปให้รัฐบาลหน้า มีกรอบเวลาที่เร็วที่สุดที่โครงการนี้จะได้รับการอนุมัติคือเดือนกรกฎาคม 2566
ส่วนใกรณีของ BTS ก็ถูกเลื่อนเซ็นสัญญาเช่นกัน เพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติกำลังตรวจสอบว่าสัญญา O&M เส้นทางหลัก และส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่ง BTS ออกมาชี้แจงข้อกล่าวหาได้ค่อนข้างชัดเจน และน่าเชื่อถือ โดยประเด็นค้างคาในเรื่องนี้จะกดราคาหุ้นเอาไว้จนกว่าศาลจะมีคำตัดสิน ซึ่งอาจจะลากยาวไปจนอีกสามปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2566 จะยังเพิ่มขึ้นตามปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น โดยมองว่าปัจจัยพื้นฐานของทั้ง BEM และ BTS ยังคงเติบโตแข็งแกร่งจากปริมาณรถใช้ทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้ากำลังเพิ่มขึ้นทั้งคู่ ซึ่งจากข้อมูลของ BEM ในเดือนมกราคมปี 2566 เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า ส่วน BTS ดังกล่าวซึ่งดำเนินการทั้งเส้นทางหลัก และส่วนต่อขยายก็น่าจะมีการเติบโตในทำนองเดียวกัน ดังนั้นจึงคาดว่าผลประกอบการของทั้งสองบริษัทจะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ในปี 2566
ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยเลือก BEM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม จึงแนะนำ “ซื้อ” มีราคาเป้าหมาย 11.50 บาท ส่วน BTS ให้ราคาเป้าหมาย 10 บาท อย่างไรก็ดีมองว่า BEM ปลอดภัยที่จะเข้าลงทุนมากกว่า BTS เพราะต่อให้ไม่ได้เซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งราคาเป้าหมายของทางฝ่ายวิจัยจะลดลงเพียง 1 บาทเท่านั้น หรือ 10% แต่ในกรณีของ BTS การตรวจสอบสัญญา O&M ของทั้งเส้นทางหลัก และส่วนต่อขยายจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อทั้งการดำเนินงานและมูลค่าของหุ้น BTS โดยประเมินว่ามูลค่าของสัญญา O&M อยู่ที่ 3.60 บาทต่อหุ้น หรือ 36% ของราคาเป้าหมายของทางฝ่ายวิจัย