IVL ส่งธุรกิจ “IOD” เทรดสหรัฐ ระดมทุนพันล้านดอลลาร์ “สุวัฒน์” ชี้ดันอีบิทด้า-มาร์จิ้นพุ่ง

IVL เตรียมดันธุรกิจ “IOD” เข้าตลาดสหรัฐ คาดว่าระดมทุนพันล้านดอลลาร์ “สุวัฒน์ สินสาฎก” ถือว่าได้ประโยชน์ค่อนข้างดีช่วยขับเคลื่อนให้ IVL เติบโตในส่วนของอีบิทด้าและมาร์จิ้นต่อไป


สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิด กล่าวว่า บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL อยู่ระหว่างการพิจารณานำธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (Integrated Oxide and Derivatives: IOD) ของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยคาดว่าจะระดมทุนผ่านการทำ IPO ได้ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะนี้ IVL อยู่ระหว่างการหารือกับที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ FA ถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจมีขึ้นอย่างเร็วภายในปีนี้ และแหล่งข่าวระบุว่าการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้เสริมการเติบโตให้กับ IVL รวมถึงลดภาระหนี้สินของบริษัทด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวยังกล่าวว่า การพิจารณาระดมทุนในตลาดสหรัฐครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และบริษัทอาจล้มแผนก็เป็นได้ ส่วนรายละเอียดด้านขนาดของการระดมทุน และช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (IOD) ของ IVL คิดเป็น 23% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัทฯในปี 2566

ด้าน นายสุวัฒน์ สินสาฎก ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เปิดเผยผ่าน “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่ามีมุมมองในเรื่องของธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ IOD มองว่าเป็นธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้ดี ถ้าดูในเชิง EBITDA โดย 1 ปีประมาณ 700-800 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ EBITDA ภายใน 1 ปีตกประมาณ 2,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ

เนื่องจาก ธุรกิจ IOD คือธุรกิจใหม่เรื่องของการผลิตพวกสารต่างๆ เช่น เครื่องชะล้างสารต่างๆ เช่นผงซักฟอก, ซันไลท์, น้ำยาทำความสะอาด เป็นต้น ซึ่งมองว่าได้ประโยชน์มากเนื่องจากมีคู่แข่งน้อยราย เพราะว่าประเทศอเมริกาเป็นประเทศขนาดใหญ่ โดยการที่จะเข้าไปอาจมีกฎระเบียบค่อนข้างมาก และมีความเข้มงวด โดยเฉพาะการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งบริษัทที่อยู่ก่อนก็จะได้เปรียบกับธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ เพราะธุรกิจนี้สามารถทำกำไรได้ดีที่สุดในเชิงมาร์จิ้นของ IVL

ทั้งนี้ ประเมินว่าถ้า IVL นำธุรกิจ IOD เข้าตลาดหุ้นในสหรัฐ ถือว่าได้ประโยชน์ค่อนข้างดีมากจะช่วยขับเคลื่อนให้ IVL เติบโตในส่วนของอีบิทด้าและมาร์จิ้นต่อไป หลังจากเดิมอีบิทด้าและมาร์จิ้นของ IVL ปกติเฉลี่ยแล้วไม่ถึง 10% ทั้งกลุ่ม ขณะที่ธุรกิจ IOD สามารถทำได้เกินกว่า 10% ซึ่งทำได้ประมาณเกือบเท่าตัวของมาร์จิ้นเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ของบริษัท

นอกจากนี้ มองว่าได้ประโยชน์มากสุดคือสารที่เอาไปทำออกเทน พวกน้ำมันเบนซิน ซึ่งสารที่นำไปเติมพวกออกเทนก็คือสาร MTBE เป็นสารที่ผสมจากพวกเบนซินทำให้เกิดค่าออกเทน เอทานอลมาผสมกับเบนซินให้เกิดแก๊สโซฮอล์ ทำให้ต้นทุนของน้ำมันถูกลง ซึ่งบริษัทจะได้ประโยชน์สูงมาก เพราะว่าอเมริกาเป็นประเทศที่ใช้แก๊สโซลีนมากที่สุด และก็ยังส่งออกได้ไปยังต่างประเทศอื่นๆ ดังนั้นเป็นกลุ่มที่การเติบโตดี มาร์จิ้นสูง ได้ผลิตภัณฑ์แข็งแกร่ง

สำหรับในส่วนของราคาหุ้น IVL อัพไซด์ไม่น่าต่ำกว่า 30% โดยผลประกอบการงวดประจำปี 2565 มีกำไรสุทธิค่อนข้างเติบโตแข็งแกร่ง

ส่วนผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 31,006.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.95% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 26,288.03 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้รวมอยู่ที่ 665,578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.75% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 468,108 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายผลการดำเนินงานตลอดทั้งปีได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบ และการเพิ่มขึ้นของราคาเทียบเคียงการนำเข้า (Importparity) เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราค่าขนส่งทางทะเล

Back to top button