“สมศักดิ์” ย้ายกลับเพื่อไทย ฝันช่วย “แลนด์สไลด์” เลือกตั้ง

“สมศักดิ์” เปิดใจกลับ “เพื่อไทย” พร้อมพุ่งเป้าแลนด์สไลด์ 310 เสียง ไม่หวังตำแหน่งรัฐมนตรี


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวพร้อมโชว์เอกสาร 3 ฉบับ ระบุว่าเป็นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม แล้ว โดยไม่ขอรักษาการ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายที่อาจมองว่าเป็นการเอาเปรียบในช่วงเลือกตั้ง โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (17 มี.ค.66)  เช่นเดียวกับหนังสือลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ และใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้าไปสมัครวันที่ 20 มี.ค.นี้ โดยอ้างอิงเหตุผลย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนงานได้ และทำรัฐบาลใหม่สำเร็จ เป็นที่พึ่งของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ จึงต้องมองพรรคการเมืองที่จะเดินหน้าได้แบบแลนด์สไลด์

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้เข้าไปกราบลานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ โดยยืนยันไม่มีความขัดแย้งแตกแยก แต่รัฐบาลที่มาจากหลายพรรคการเมืองเป็นปัญหาอุปสรรคในการขับเคลื่อนนโยบาย  อีกทั้งพิจารณาจากโพลและการคำนวณ ส่วนตัวคิดว่าพรรคเพื่อไทย 220 เสียง เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่หากได้เข้าไปช่วยทำให้ตัวเลขของพรรคเพื่อไทยสูงขึ้น ไปสู่เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยวางไว้ 310 เสียง ซึ่งการเป็นรัฐบาลเป็นความใฝ่ฝันของพรรคการเมือง ส่วนจะไปถึงเป้าหมาย 310 เสียงหรือไม่ไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ แต่จะเข้าไปช่วยให้สำเร็จตามเป้าหมาย

ส่วนการคาดการณ์ของโพลที่มองว่า หากกลุ่มสามมิตรเข้าไปอาจช่วยเสริมให้พรรคเพื่อไทยได้ถึง 310 เสียงนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตัวเลขอาจจะมากหรือน้อยกว่าก็ได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะได้มาก

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งนายสุริยะได้แจ้งให้ทราบว่านายกฯ ไม่ได้ติดใจ พร้อมขอบคุณนายกฯ ที่ให้โอกาสทำงาน และขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่สนับสนุนการทำงานที่ผ่านมา

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่ายังไม่ได้เข้าไปในพรรค หรือพูดคุยกับผู้บริหารของพรรค แต่เบื้องต้นทราบว่าคนในพรรคยินดีต้อนรับตนและนายสุริยะ ส่วนจะให้ดูแลพื้นที่ไหนก็แล้วแต่พรรคจะเห็นว่าเหมาะสม และไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล

สำหรับกระแสข่าวการจับขั้วทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะพิจารณา ไม่ขอให้ความเห็น แต่คาดว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนใดๆ

Back to top button