“ดาวโจนส์” พุ่งต่อกว่า 300 จุด นักลงทุนคลายกังวลวิกฤตแบงก์
“ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 300 จุด นักลงทุนคลายความกังวลวิกฤตธนาคารสหรัฐ-จับตาผลการประชุมเฟดวันนี้ โดย ณ เวลา 20:32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,583.01 จุด บวก 338.43 จุด หรือ 1.05%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(21มี.ค.66) ดัชนีดาวโจนส์ทะยานกว่า 300 จุด ขณะที่นักลงทุนคลายความกังวลต่อวิกฤตการณ์ในระบบธนาคารสหรัฐ โดย ณ เวลา 20.32 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,583.01 จุด บวก 338.43 จุด หรือ 1.05%
ด้านราคาหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB และหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาคของสหรัฐ พุ่งขึ้นในวันนี้ ขานรับมาตรการช่วยเหลือภาคธนาคารของทางการสหรัฐ
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ระบบธนาคารของสหรัฐมีเสถียรภาพ หลังจากที่ทางการสหรัฐออกมาตรการเสริมสภาพคล่องก่อนหน้านี้ และรัฐบาลพร้อมดำเนินการมากขึ้น หากพบว่าวิกฤตการณ์ลุกลามออกไป
นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวว่า การที่ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐอัดฉีดเม็ดเงินในรูปเงินฝากจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ FRB ถือเป็นการแสดงความเชื่อมั่นต่อระบบธนาคารของสหรัฐ
นางเยลเลนกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว หลังมีข่าวว่า กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังศึกษาแนวทางในการทำให้บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) สามารถคุ้มครองเงินฝากได้ทั้ง 100% จากปัจจุบันที่ให้การคุ้มครองไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐ กำลังเป็นผู้นำการเจรจาร่วมกับผู้บริหารของธนาคารขนาดใหญ่แห่งอื่นๆ เกี่ยวกับมาตรการครั้งใหม่ในการสร้างเสถียรภาพต่อ FRB
รายงานระบุว่า ธนาคารดังกล่าวกำลังพิจารณาเข้าลงทุนใน FRB โดยอาจมีการแปลงเงินฝาก 3 หมื่นล้านดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ให้เป็นการเพิ่มทุนในธนาคาร
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ และจะแถลงผลการประชุมในวันพรุ่งนี้
โดยผลการสำรวจนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งจะเป็นการแสดงความเชื่อมั่นของเฟดว่าสามารถรับมือวิกฤตการณ์ในระบบธนาคารขณะนี้ และเฟดจะยังคงให้ความสำคัญต่อการสกัดเงินเฟ้อ แม้มีสัญญาณการชะลอตัว แต่ก็ยังคงสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
“เราคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันพรุ่งนี้ โดยเราไม่คิดว่าภาวะไร้เสถียรภาพในระบบการเงินจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เฟดคงดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ว่าเฟดจะสูญเสียความเชื่อมั่นในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดต้องการที่จะรักษาเอาไว้” นักวิเคราะห์จากเจฟเฟอรรี ไฟแนนเชียล กรุ๊ปกล่าว
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84.9% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. และให้น้ำหนักเพียง 15.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย