ดักเก็บ “หุ้นโรงกลั่น” ต่ำบุ๊ก-ยีลด์สูง ชู TOP-PTTGC-BCP เด่น!
หุ้นกลุ่มโรงกลั่นเข้าโซนน่าลงทุน TOP-PTTGC-BCP-SPRC-ESSO โดดเด่น ล่าสุด P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า ขณะที่ยีลด์สูงสุด 10.37% ไตรมาสแรกค่าการกลั่นพุ่งกระฉูด 36.3% มีโอกาสสูงกำไรสต๊อกน้ำมัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลหุ้นกลุ่มโรงกลั่น ณ ราคาปิดวันที่ 23 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา พบว่าราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวลดลงมามากเมื่อเทียบกับต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าอยู่ในโซนน่าลงทุน เนื่องจากหุ้นโรงกลั่นมีมูลค่าทางบัญชี หรือ P/BV ที่ต่ำกว่า 1 เท่า ขณะที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield สูงสุดกว่า 10.37%
โดยหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มีค่า P/BV อยู่ที่ 0.74 เท่า ดิวิเดนด์ยีลด์ 7.15%, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP มีค่า P/BV อยู่ที่ 0.68 เท่า ดิวิเดนด์ยีลด์ 7.20% และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC มีค่า P/BV อยู่ที่ 0.72 เท่า ดิวิเดนด์ยีลด์ 2.15%
ขณะที่ กลุ่มโรงกลั่นต่างชาติ ได้แก่ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC มีค่า P/BV อยู่ที่ 1.20 เท่า ดิวิเดนด์ยีลด์ 10.37% และบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO มีค่า P/BV อยู่ที่ 1.13 เท่า ดิวิเดนด์ยีลด์ 8.99%
สอดคล้องกับบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ที่ระบุว่า หุ้นกลุ่มโรงกลั่นราคาอยู่ในโซนน่าลงทุนอีกครั้ง นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน หรือ YTD โดยเฉพาะหุ้นหลักในกลุ่มบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP, บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ปรับฐานมากถึง -11.6%, -4.0% และ -5.3% ตามลำดับ
ขณะที่ Valuation หุ้นที่มี P/BV ปี 2566 ต่ำกว่า 1 เท่า จากแรงหนุนค่าการกลั่นโดยเฉลี่ยงวดไตรมาสที่ 1/2566 นับจากต้นปีถึงปัจจุบันเพิ่มขึ้น 9.42% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 36.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่มีโอกาสเห็น Positive Surprise จากกำไรสต๊อกน้ำมัน หรือ Stock Gain เล็กน้อย หลังราคาน้ำมันเฉลี่ยเดือน มี.ค. 2566 ยังสูงกว่าปลายงวดปี 2565 ระยะสั้นเน้น TOP ราคาเป้าหมาย 80 บาท, PTTGC ราคาเป้าหมาย 66 บาท , BCP ราคาเป้าหมาย 52.5 บาท
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หุ้นโรงกลั่นกลับมาน่าสนใจ จากค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่มีกำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปีถัดไปจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2-3 แสนบาร์เรลต่อวันเท่านั้น ขณะที่ราคาปรับลดลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา
“หุ้นโรงกลั่นจะกลับมาฟื้นตัวระยะยาวถึงปี 2573 เนื่องจากซัพพลายที่ลดลง โรงกลั่นใหม่จะไม่เกิด โดยเฉพาะในประเทศไทย มีเพียงแค่การขยายกำลังผลิตของโรงกลั่นเดิมเท่านั้น ขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันกลับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าการกลั่นกลับมาอยู่ในระดับที่สูงขึ้น”
ขณะที่ ระดับราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น โดยเฉพาะ TOP, BCP, บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC และ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO