DDD รุกกลยุทธ์ 4 ด้าน ดันเป้ารายได้ปี 66 โตกว่า 20%

DDD ตั้งเป้าปี 66 รายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% เดินหน้าตามกลยุทธ์ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมสินค้า, ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย, ด้านการขยายธุรกิจ และด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ


นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวรายงานผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า “ในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,603 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 13.57 สืบเนื่องจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับแผนการดำเนินงานหลายด้านเพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยเป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวร้อยละ 50.90 และผลิตภัณฑ์เสริมความงามร้อยละ 49.10 ซึ่งเติบทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ในอัตราร้อยละ 15.63 และ ร้อยละ 11.22 ตามลำดับ รายได้จากการขายในประเทศยังเป็นสัดส่วนหลักคิดเป็นร้อยละ 65.31 และตลาดต่างประเทศมีการขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 88.69 ตามกลยุทธ์ของบริษัทฯที่มุ่งเป็น “บริษัทชั้นนำที่มุ่งดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพ ความงาม สุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยมีโครงข่ายครอบคลุมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 557 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 34.72 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 4.90 point เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 559 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.62 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น การรักษาประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับบุคคลภายนอก (OEM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 896 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.92 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 2.35 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 822 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.27 ของรายได้จากการขาย โดยสอดคล้องกับแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นปีที่บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตจาก Core business และยังมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงานที่กลับมาเป็นบวกด้วย

สำหรับปี 2566 จากการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากผ่านพ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นแรงสนับสนุนหลัก ที่จะส่งผลดีทั้งต้องเศรษฐกิจทั่วโลก เศรษฐกิจของไทย รวมไปถึงความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และนโยบายการเปิดประเทศที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา ซึ่งภาคการท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ส่วนภาคการส่งออกยังคงมีการเติบโตต่อเนื่องแต่ชะลอตัวลงจากปีก่อน ทั้งหมดจะเป็นปัจจัยผลักดันเศรษฐกิจไทยปีนี้ให้ขยายตัว 3–3.5%

ส่วนบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าปี 2566 รายได้เติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 เดินหน้าตามกลยุทธ์ 4 ด้าน ประกอบด้วย กลยุทธ์ ด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมสินค้า ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการขยายธุรกิจ ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยกลยุทธดังกล่าวยังเป็นกลยุทธที่จะผลักดันให้องค์กรเพื่อไปสู่เป้าหมายในระยะยาวด้วย

โดยกลยุทธ์ด้านการขยายธุรกิจ ถือเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้ DDD Group เติบโตแบบก้าวกระโดด บริษัทฯมีแนวทางการขยายธุรกิจครอบคลุมถึงการเติบโตด้วยทรัพยากรภายใน (Organic Growth) และการเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) รวมไปถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจ การควบรวมกิจการ การซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้าและเครื่องหมายการค้าเพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายหรือผลิตและจัดจำหน่ายภายในประเทศ (Authorized Distributor) การขายลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้าเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายในต่างประเทศ (Brand Principal) และรูปแบบการดำเนินธุรกิจในรูปแบบอื่น (New Business Model) แต่อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงความเสี่ยงและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน

บริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะขยายธุรกิจ Wellness and Lifestyle จึงมุ่งมองหาโอกาสทางธุรกิจ ให้ครอบคลุมรูปแบบการใช้ชีวิตของคนทุกเพศทุกวัย โดยแบ่ง 5 กลุ่มหลักได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care) ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว (Personal Care) ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริมความงาม (Beauty Equipment) ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ (Sports and Wellness) และ ธุรกิจค้าปลีกและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์ (Retail and Lifestyle) โดยอาศัยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาด ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและศักยภาพของตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเติบโตของบริษัทฯเป็นไปอย่างยั่งยืน

Back to top button