“ชัยยศ” แนะเก็บหุ้นลุ้นทำ “Window Dressing” ชู EA-OR-GLOBAL เด่น!
“ชัยยศ จิวางกูร” แนะดักเก็บ EA-OR-GLOBAL ลุ้นเป็นหุ้นทำ “Window Dressing” ส่วนหุ้นน่าเก็งกำไร ชูหุ้นแบงก์ อย่าง BBL-SCB เป็นดาวเด่น!
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (29 มี.ค. 66) ว่า ภาพรวมของแนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางดีและมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้าน 1,620-1,625 จุด เหตุจากแบงก์ในต่างประเทศมีสถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังประสบปัญหาวิกฤตธนาคารก่อนหน้านี้ ทั้งนี้มองว่า ในประเด็นดังกล่าวที่เริ่มคลี่คลายได้นั้น เหตุเพราะได้รับปัจจัยบวกเรื่องของการเข้าซื้อกิจการของ 2 ธนาคาร อย่างธนาคารเครดิต สวิส (Credit Suisse Bank) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) เมื่อวันที่ 27 มี.ค.66
ขณะที่ในส่วนของราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงมีการดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเช้าที่ผ่านมา ปิดที่ใกล้ 74 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งมองว่าการที่ราคาน้ำมันมีการดีดตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและเป็นปัจจัยหนุนดัชนีของไทยให้มีการดีดตัวขึ้นต่อได้
ส่วนประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยตามนโยบายการเงินของกนง. คาดว่า จะมีการขยับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.75% โดยแนะนักลงทุนจับตาประเด็นดังกล่าว ว่าจะมีการปรับขึ้นไปอยู่ที่เท่าไหร่ ในการประชุมบ่ายวันนี้ ขณะเดียวกันยังคงแนะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ว่าหลังจากผลการประชุมในวันนี้จะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายหรือไม่ รวมถึงเรื่องของการประมาณการตัวเลข GDP ว่าจะมีตามมาหรือไม่
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำกลุ่มแบงก์ มองเด่นสุดเป็น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รับอานิงสงส์ พอร์ตสินเชื่อเติบโต ส่วนบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รับปัจจัยบวกเรื่อง ปันผลดี
นอกจากนี้แนะนำกลุ่มน้ำมัน อย่างบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ขานรับปัจจัยบวกเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยให้ราคาพื้นฐาน 176 บาท ส่วนถ้ามองสัญญาณเทคนิค แนะรอจังหวะราคาย่อตัวลงมาที่แนวรับ 149 บาท ส่วนแนวต้าน 153-155 บาท
อย่างไรก็ตามสำหรับหุ้นที่น่าสนใจ มองว่ามีโอกาสที่จะทำ Window Dressing ได้แก่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL