WTI ปิดบวก 2% อานิสงส์อุปทานตึงตัว หลัง “อิรัก” ระงับส่งออกน้ำมัน
น้ำมัน WTI ปิดบวก 1.75% แตะ 75.67 ดอลลาร์/บาร์เรล รับแรงหนุนอุปทานน้ำมันตึงตัว หลังอิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (31 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว เนื่องจากอิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 75.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 79.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่ง 9.25% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวขึ้น 6.37%
แต่ในเดือนมี.ค. สัญญาน้ำมันดิบ WTI และสัญญาน้ำมันดิบ BRENT ลดลง 1.8% และ 4.9% ตามลำดับ
ตลาดน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวภาวะปั่นป่วนในภาคธนาคาร และนักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่ภาวะขาดแคลนผลผลิตน้ำมัน
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการที่อิรักสั่งระงับการส่งออกน้ำมันราว 450,000 บาร์เรล/วันจากเคอร์ดิสถานผ่านทางตุรกี หลังจากคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการยืนยันว่าการส่งออกน้ำมันจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลอิรัก โดยเคอร์ดิสถานเป็นเขตปกครองตนเองซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก
วลาดิเมียร์ เซอร์นอฟ นักวิเคราะห์ของเอฟเอ็กซ์ เอ็มไพร์เปิดเผยในวันศุกร์ว่า “บรรดาเทรดเดอร์ยังคงจับตาสถานการณ์ในเคอร์ดิสถาน ซึ่งการส่งออกน้ำมันหยุดชะงักเมื่อเร็ว ๆ นี้ และบรรดาผู้ผลิตได้ถูกบังคับให้ปิดการผลิตที่บ่อน้ำมันบางแห่ง”
ขณะที่บรรดานักลงทุนในตลาดน้ำมันจะจับตาการประชุมคณะกรรมการของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า โอเปกพลัสมีแนวโน้มที่จะคงนโยบายการผลิตน้ำมันด้วยการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2566