“ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 300 จุด หุ้นพลังงานนำตลาด

“ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 300 จุด หุ้นพลังงานนำตลาด หลัง "โอเปกพลัส" หั่นกำลังการผลิต 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปีนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 300 จุด ในวันนี้(3 เม.ย.66) ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของเดือนเม.ย. และวันแรกของไตรมาส 2/2566 โดย ณ เวลา 21.08 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,586.72 จุด บวก 312.57 จุด หรือ 0.94%

โดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด หลังสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจรวมกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปี 2566

อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ลบ 0.5% ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 61.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 38.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุด และจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลตั้งแต่เดือนพ.ค. ขณะที่รัสเซียปรับลดกำลังการผลิต 500,000 บาร์เรล/วัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (144,000 บาร์เรล/วัน) อิรัก (211,000 บาร์เรล/วัน) คูเวต (128,000 บาร์เรล/วัน) คาซัคสถาน (78,000 บาร์เรล/วัน) แอลจีเรีย (48,000 บาร์เรล/วัน) โอมาน (40,000 บาร์เรล/วัน) และกาบอง (8,000 บาร์เรล/วัน)

ด้านตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ เนื่องในวัน Good Friday อย่างไรก็ดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันดังกล่าว ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

Back to top button