DTCENT ยันรายได้ปีนี้พุ่ง 15% ใส่เกียร์ลุย IoT Solution หนุนธุรกิจโตเด่น

DTCENT ตั้งเป้าผลงานปี 66 เติบโต 10-15% ใส่เกียร์ลุยขยายธุรกิจ IoT Solution รองรับภาครัฐ-ความต้องการใช้ระบบ GPS Tracking เพิ่มขึ้น พร้อมนำโมเดลไปลงทุนในอาเซียน หนุนธุรกิจเติบโตโดดเด่น


นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCENT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตในปี 66 ที่ระดับ 10-15% จากความต้องการใช้บริการระบบ GPS Tracking ที่มีเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน นอกจากนี้มีการวางแผนเปิดศูนย์บริการและขายสินค้าตามจังหวัดหลักในประเทศ ตั้งเป้าหมาย 7 แห่งภายในปีนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติม

ขณะเดียวกันยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นใหม่ IoT Solution รองรับการขยายโครงการของภาครัฐ เช่น งานโครงการด้านเมืองอัจฉริยะ (SMART CITY) ตามเทศบาลต่างๆ และ ระบบ AI  อย่าง BAMS (Business Activity Management System) ขณะนี้ อยู่ระหว่างการทดสอบการใช้ระบบ รวมทั้ง ระบบบริหารจัดการน้ำ และระบบ BIM (Building Information Modeling), EV Platform, Logistics Demand-Supply Matching Platform ซึ่งคาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

ส่วนการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยการนำโมเดล ระบบ GPS Tracking และ IoT Solution ร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษา เจรจาทางธุรกิจ คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปี 66

สำหรับความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) วางแผนที่จะพัฒนาให้บริษัทฯ เป็น Tier 1 Supplier ในงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้เพิ่มขึ้น ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ขณะนี้ ร่วมวางแผนงานการดำเนินธุรกิจ ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) และพัฒนาผลิตภัณฑ์ Supply Chain Solutions ใหม่ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้กับบริษัทฯ

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กับธุรกิจหลัก ในรูปแบบการทำ M&A กับบริษัทที่มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องในอนาคต

อนึ่ง ผลการดำเนินงานปี 65 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 65) มีรายได้รวม 641.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.46% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 591.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51.98 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/66 เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 ได้มีการอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท โดยปันผลดังกล่าวเป็นการจ่ายจากผลการดำเนินงานของปี 65 จำนวนไม่เกิน 48,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 25 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมมูลค่าหุ้นทั้งสิ้น ไม่เกิน 24,100,000 บาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายหุ้นปันผลในอัตราหุ้นละ 0.020000000000 บาท

ในกรณีที่หุ้นสามัญที่เกิดจากการจ่ายปันผลคำนวณได้ออกมาเป็นเศษของหุ้น บริษัทจะตัดเศษของหุ้นดังกล่าวทิ้งและจะจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้กับเศษของหุ้นที่ปัดทิ้งในอัตราหุ้นละ 0.020000000000 บาท และจ่ายปันผลเป็นเงินสดจำนวนไม่เกิน 2,677,777.78 บาท ในอัตราหุ้นละ 0.002222222220 บาท เพื่อรองรับภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ตามมาตรา 50(2) แห่งประมวลรัษฎากร รวมเป็นการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.022222222220 บาท ซึ่งวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) ในวันที่ 2 พ.ค.66 และกำหนดวันที่จ่ายปันผลเป็นวันที่ 19 พ.ค.66

Back to top button