เปิด 20 หุ้น SET ไตรมาสแรก SKY โกยรีเทิร์นเท่าตัว WAVE-SISB ทะยานเกิน 50%

เปิด 20 อันดับหุ้น SET ราคาพุ่งมากสุดในไตรมาสแรกปีนี้ (30 ธ.ค.65.-31 มี.ค.66) พบ SKY โกยรีเทิร์นเยอะสุด 100% ส่วน SFP ทะยาน 87% ฟาก WAVE-SISB ตามมาติดๆ พุ่งกว่า 50%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงในรอบ 3 เดือน หรือไตรมาสแรกปี 66 โดยเปรียบข้อมูลราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.65- 31 มี.ค.66 โดยได้คัดเลือกมา 5 อันดับแรกของกลุ่มที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วย

สำหรับกลุ่มหุ้น SET ราคาปรับตัวขึ้นแรงในรอบในรอบ 3 เดือน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY, 2.บริษัท อาหารสยาม จำกัด (มหาชน) หรือ SFP, 3.บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE, 4.บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB และ 5.บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ MENA เป็นต้น

ด้าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.66) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 66 ของ SISB อีก 27.1% และปี 67 อีก 21.9% เนื่องจากผลการดำเนินงานของบริษัทแข็งแกร่งเกินคาด และจำนวนนักเรียนมีแนวโน้มจะสูงกว่าที่คาดไว้จาก 66F ไป จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 66F ขึ้นอีก 27.1% เป็น 622 ล้านบาท (โต 60.1% จากปีก่อน) และปี 67 ขึ้นอีก 21.9% เป็น 756 ล้านบาท (โต 21.5% จากปีก่อน) (Figure 2)

โดยได้ปรับสมมติฐาน 1) จำนวนนักเรียนปี 66F เป็น 4,000 คน (จากเป้าเดิมของบริษัทที่ 3,700 คน) และยังคงประมาณการว่าจำนวนนักเรียนจะเพิ่มขึ้นปีละ 400 คน ในช่วงปี 67-70F 2) อัตรากำไรขั้นต้นปี 66 เป็น 53.0% จากเดิม 51.0% และปี 67 เป็น 54.0% จากเดิม 52.0% และ 3) สัดส่วน SG&A/รายได้ปี 66-67 เป็น 22.5% และ 22.0% จากเดิมที่ 23.5% และ 23.0% ตามลำดับ

ทั้งนี้ จากแนวโน้มกำไรที่น่าประทับใจ จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย DCF กลางปี 67 ที่ 33.50 บาท จากเดิมที่ใช้ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 24 บาท ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นมาจาก 1) การปรับเพิ่มประมาณการกำไร 2.90 บาท 2) การขยับราคาเป้าหมายไปกลางปีหน้า 2.40 บาท และ 3) การปรับเพิ่ม TG ขึ้น 1% บวกราว 4.20 บาท

ด้าน บล.ทรีนีตี้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ ประเมินการเติบโตของ MENA ปี 66-67 อยู่ที่ 74 และ 99 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 37% จากปีก่อน และ 34% จากปีก่อน ตามลำดับ โดยเป็นผลมาจากทั้งการเติบโตของกองรถโม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 100 คัน และส่วนแบ่งรายได้จาก TMD ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 3 บาท

Back to top button