AOT ชี้ผู้โดยสารช่วง “สงกรานต์” ทะลัก 2.37 ล้านคน ฟื้นแรง 137%

AOT คาดในช่วงเทศกาล “สงกรานต์” ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งจะมีเที่ยวบินรวม 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 59.62% ส่วนผู้โดยสารใช้บริการสนามบินคาดประมาณ 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน


บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.66 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ สุวรรณภูมิ (ทสภ.), ดอนเมือง (ทดม.), เชียงใหม่, แม่ฟ้าหลวงเชียงราย, ภูเก็ต และหาดใหญ่ จะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 14,220 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 59.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 7,500 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 219.20% และเที่ยวบินภายในประเทศ 6,720 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 2.44%

ขณะที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินทั้ง 6 แห่งประมาณ 2.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 137.48% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.37 ล้านคน เพิ่มขึ้น 561.76% และผู้โดยสารภายในประเทศ 1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26.08%

ทั้งนี้เมื่อเทียบคาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศช่วงสงกรานต์ 66 กับปริมาณที่เกิดขึ้นจริงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปี 62 พบว่า ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารยังคงติดลบ โดยเที่ยวบินรวมลดลง 18.47% จากปี 62 ที่มีจำนวน 17,440 เที่ยวบิน เที่ยวบินระหว่างประเทศลดลง 20.90% จากปี 62 ที่มีจำนวน 9,480 เที่ยวบิน เที่ยวบินภายในประเทศลดลง 15.59% จากปี 62 ที่มีจำนวน 7,960 เที่ยวบิน

ขณะที่ประมาณการผู้โดยสารรวมลดลง 17.39% จากปี 62 ที่มีจำนวน 2.87 ล้านคน ผู้โดยสารระหว่างประเทศลดลง 20.96% จากปี 62 ที่มีจำนวน 1.74 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศลดลง 11.91% จากปี 62 ที่มีจำนวน 1.13 ล้านคน

โดย AOT ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของผู้โดยสารจำนวนมากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยการนำนวัตกรรมมาใช้อำนวยความสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน SAWASDEE by AOT โดยจะสามารถตรวจสอบข้อมูลและสถานะเที่ยวบิน รวมถึงตรวจสอบระยะเวลาการรอคิว ณ จุดเช็กอิน (Check-in) จุดตรวจความปลอดภัย (Security) และจุดตรวจคนเข้าเมือง (Immigration) ตลอดจนตรวจสอบสถานะของกระเป๋าเดินทาง บอกตำแหน่งและจำนวนห้องน้ำภายในอาคารผู้โดยสาร รวมถึงจำนวนช่องจอดรถที่ว่างสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถสาธารณะสามารถจองรถแท็กซี่ และค้นหาข้อมูลรถสาธารณะได้

นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่อง Kiosk สำหรับเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ ณ ทสภ.ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารไม่ต้องเข้าแถวรอคิวเข้าใช้บริการเคาน์เตอร์ อีกทั้งยังสามารถเช็กอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระล่วงหน้าได้ 6-12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน)

ส่วนของ ทสภ.ได้มีการปรับปรุงการให้บริการเพิ่มเติม โดยติดตั้งระบบส่งคืนถาดใส่สัมภาระอัตโนมัติ (Automatic Return Tray System: ARTS) ณ จุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศล้วเสร็จ 4 ชุดที่จุดตรวจค้นฯ โซน 3 ซึ่งระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งในการรอต่อคิวตรวจกระเป๋าและสัมภาระแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสด้วย UV Light (UVC) ได้สูงถึง 99.9% และในระหว่างติดตั้งระบบ ARTS ที่เหลืออีก 15 ชุด ได้มีการเปิดใช้งานจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั่วคราวบริเวณท้ายเคาน์เตอร์เช็กอิน Row W

นอกจากนี้ ทสภ.ได้มีการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถระยะยาวโซน C ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 12 เม.ย.ถึงเวลา 24.00 น.ของวันที่ 18 เม.ย.66 พร้อมจัดรถ Shuttle Bus ให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับ ทดม.ได้มีการบริหารจัดการการจราจรเพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าชานชาลาขาออกชั้น 3 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ โดยปรับช่องทางเข้าอาคารจอดรถ 7 ชั้น จากเดิมใช้ช่องทางชั้น 3 มาใช้ชั้น 1 แทน ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ระหว่างเวลา 04.00 – 07.00 น.เท่านั้น นอกจากเวลาดังกล่าว ผู้ใช้บริการสามารถใช้เส้นทางเข้าอาคารจอดรถตามปกติ

Back to top button