โบรกแนะเทรดดิ้ง 17 หุ้น Domestic รับ SET เข้าโหมดฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (11 เม.ย.66) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น ราคาทองปรับตัวลง ค่าเงินตอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) กลับมาแข็งค่า ซึ่งภาพดังกล่าวคล้ายกับว่าสะท้อนถึงนักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักกับเรื่องเงินเฟ้อและดอกเบี้ยอีกครั้ง โดยสหรัฐฯมีกำหนดรายงานเงินเฟ้อประจำเดือนมี.ค.ในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย

เบื้องต้น Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 5.1% จากปีก่อน และ 0.2% จากเดือนก่อน ลดลงจากเดือนก่อนที่ 6% จากปีก่อน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่เงินเฟ้อสหรัฐฯ จะขยายตัวในระดับ 5%(+/-) เนื่องจากข้อมูลในอดีตบ่งชี้ว่าค่าเฉลี่ยระหว่าง CPI , PCE มักจะอยู่ที่ 0.5% โดยเดือนล่าสุด PCE ได้ปรับลงมา อยู่ที่เพียง 5%

ทั้งนี้หากรายงานแล้วสูงกว่าตลาดประเมินก็เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบเชิงลบมายังตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจาก Bloomberg Consensus ได้ประเมินแล้วว่าทิศทางเงินเฟ้อจะปรับลงต่อเนื่องโดยสิ้นปี 66 จะลงมาอยู่ที่ 4% จึงไม่น่าจะกระทบมุมมองตอกเบี้ยของนักลงทุนเท่าใดนัก เบื้องต้น CME FED watch ประเมินว่าดอกเบี้ยจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดที่ 5.25% ซึ่งหากเงินเฟ้อลงมาอยู่ที่ระดับ 4% ก็จะทำให้ดอกเบี้ยที่แท้จริง (ตอกเบี้ย – เงินเอ) กลับมาอยู่ที่ 1.25% ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีตแล้ว

สำหรับ SET INDEX หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน พบว่ายังค่อนข้างให้น้ำหนักเชิงบวกหนุนจาก (1) เศรษฐกิจไทยยังเห็นการขยายตัวเฉลี่ย 3.6% จากปีก่อน ถือเป็นการขยายตัวที่สูงกว่าสหรัฐฯที่ราว 0.5% จากปีก่อน (2) เงินเฟ้อไทยปรับลงค่อนข้างเร็ว ล่าสุดลงมาทดสอบที่เพียง 2.8% จากปีก่อน (3) กำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียน ภาพรวม Bloomberg ยังคาตว่าในปี 66 จะเห็นการขยายตัวราว 11% จากปีก่อน ขณะที่ SET INDEX ปัจจุบันหากไม่รวม DELTA ก็จะอยู่ที่เพียง 1,480 จุด ซึ่งเป็นระดับที่มิได้แพงมากนัก จึงเชื่อว่า SET INDEX จะค่อยๆ ปรับขึ้นได้จากนี้หลังจากปรับฐานลงมาก่อนหน้า

ด้านกลยุทธ์การลงทุน Trading ได้เช่นเดิม ยังเชื่อว่าตลาดหุ้นอยู่ในช่วงค่อยๆ ฟื้นตัว เน้น Domestic Play อาทิ กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) กลุ่มศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA)