จับตาพรุ่งนี้ “กกพ.” เคาะลดค่า “เอฟที” เหลือ 4.70 บ./หน่วย
จับตา “กกพ.” ประชุมเรื่องค่า “เอฟที” พรุ่งนี้ ลุ้นปรับลดงวดใหม่เดือน พ.ค.-ส.ค.66 มาที่ 4.70 บาท จากเดิม 4.77 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 เม.ย.66) นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) วันที่ 21 เม.ย.นี้ จะพิจารณาเรื่องการปรับลดค่าเอฟทีงวดใหม่ สำหรับเดือนพ.ค.-ส.ค.2566 ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าที่รับภาระแทนประชาชนไปก่อนจาก 2 ปี เป็น 2 ปี 4 เดือน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสำหรับเดือนพ.ค.-ส.ค.2566 ลดลงจาก 4.77 บาท/หน่วย เป็น 4.70 บาท/หน่วย
นายคมกฤช กล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าวมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังที่ดูแลเรื่องวินัยการเงินการคลังและหนี้สินร่วมอยู่ด้วย หากได้รับความเห็นชอบก็จะประกาศลดค่าไฟฟ้าต่อไป โดยหนังสือที่ กฟผ.ยืนยันจะยืดหนี้นั้นระบุว่า สำหรับงวดที่ 2/2566 (พ.ค.-ส.ค.) สามารถจัดการด้านสภาพคล่องได้ แต่สำหรับงวด 3/2566 (ก.ย.-ธ.ค.) อาจจะเกิดปัญหาสภาพคล่องไม่สามารถที่จะยืดหนี้ได้อีก ระบบหรือประชาชนก็จะต้องคืนหนี้แก่ กฟผ. โดยหนี้วงเงินเต็มนั้น อยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท และมีการคืนหนี้ในงวดที่ 1/66 (ม.ค.-เม.ย.) ไปแล้ว วงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
ด้าน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการ กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ. ได้ทำหนังสือ ยืนยันไปยัง กกพ. และเชื่อว่า กกพ.จะเห็นชอบปรับลดค่าเอฟทีงวดใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค.2566 โดยขณะนี้กำลังพิจารณาว่าค่าไฟงวดใหม่สำหรับเดือนพ.ค.-ส.ค.2566 จะมีส่วนใดมาช่วยเหลือเพิ่มเติมหรือไม่ นอกเหนือจากการยืดหนี้ของ กฟผ. เพราะจากการหารือกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ไม่มีงบประมาณเพียงพอในการอุดหนุนค่าไฟฟ้าที่คาดว่าจะใช้งบประมาณ 8,000 ล้านบาท
“ตอนนี้มองไปถึงงวดถัดไปสำหรับเดือนก.ย.-ธ.ค.2566 ว่าจะทำอย่างไรให้ต้นทุนต่ำที่สุด โดยมอบให้ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เร่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) ที่ขณะนี้ราคาต่ำ 11-13 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู มาสำรองไว้ได้หรือไม่ โดยต้องยอมรับว่างวดที่ 1/2566 นั้นราคาแอลเอ็นจีสูงมากอยู่ที่ประมาณ 47 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู” นายกุลิศ กล่าว
นายกุลิศ กล่าวยอมรับว่า ช่วงนี้อากาศของไทยร้อนจัด ประชาชนเปิดแอร์และพัดลมช่วยคลายความร้อนพร้อมกันจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดพีกครั้งที่ 4 ขึ้น เมื่อค่ำวานนี้ (19 เม.ย.2566) เวลา 20.44 น. เกิดพีก 32,212.5 เมกะวัตต์ และต้องเข้าใจว่าค่าไฟฟ้าของไทยเป็นอัตราก้าวหน้ายิ่งใช้มากก็ยิ่งจ่ายแพง
อย่างไรก็ตาม งวดนี้ (ม.ค.-เม.ย.2566) ค่าไฟเฉลี่ยเรียกเก็บกับประชาชนคิดในอัตรา 4.72 บาท/หน่วย ยังมีเงินช่วยเหลือจากรัฐลดให้ผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน ส่วนงวด 2 กำลังพิจารณาว่าจะมีส่วนใดมาช่วยเหลือเพิ่มเติมได้หรือไม่