ผู้ถือหุ้น SUN ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.10 บ./หุ้น ขึ้น XD 27 เม.ย.นี้
SUN ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ไฟเขียวจ่ายปันผลอัตรา 0.10 บ./หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 27 เม.ย.66 กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 19 พ.ค. 66 พร้อมมั่นใจแนวโน้มธุรกิจปี 66 คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวานแปรรูปและสินค้าเกษตรอื่น ๆ ภายใต้แบรนด์ KC ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อ วันที่ 20 เมษายน 2566 ในรูปแบบผสม (Hybrid Meeting) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) และเข้าประชุม (Physical) ที่ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) โดยมี นายไกรฤทธิ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการ เป็นประธานในการประชุม ณ ห้องประชุม สำนักงานบริษัท จังหวัดเชียงใหม่ บริษัทดำเนินการภายใต้มาตรการเรื่องความปลอดภัยและการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUN เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2565 รอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เป็นจำนวนทั้งสิ้น 96,749,613.75 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 76.88 ของกำไรสุทธิหลังหักทุนสำรองตามกฎหมายจากงบการเงินเฉพาะกิจการซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัท ซึ่งบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท รวมเป็นเงิน 32,249,871.25 บาท
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2565 การปันผลประจำปีที่นำเสนอในครั้งนี้ อัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงิน 64,499,742.50 บาท จากกำไรสุทธิที่เสียภาษีในอัตราร้อยละ 20 ซึ่งผู้ถือหุ้นประเภทบุคคลธรรมดาสามารถขอเครดิตภาษีคืนได้เท่ากับเงินปันผลคูณ 20/80 โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 27 เม.ย. 66 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับปันผล (Record Date) ในวันที่ 28 เม.ย. 2566 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 19 พ.ค. 2566
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจปี 2566 คาดว่าจะฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียเป็นสำคัญ ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการดำเนินกิจกรรมอื่นทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) อันจะนำไปสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป