5 แบงก์นำร่อง “สแกนหน้า” หากโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาท

“5 แบงก์” นำร่องสแกนใบหน้าก่อนโอนเงินผ่านแอปฯ เกิน 5 หมื่นบาท หวังป้องกันมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน


จากกรณี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ ได้มีนโยบายให้ธนาคารทุกแห่งที่ให้บริการโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชัน ยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมบนแอปธนาคาร ซึ่งที่ผ่านมามิจฉาชีพได้ใช้ช่องทางดังกล่าว หลอกให้ประชาชนโอนเงิน โดยแบงก์ชาติกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องยืนยันตัวตนเมื่อทำธุรกรรมตามกำหนด เป็นนโยบายการบริหารจัดการปัญหาการทุจริตและหลอกลวงผ่านการใช้บัญชีเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ให้ต้องมีการยืนยันตัวตนทุกครั้ง

สำหรับธุรกรรมที่ต้องยืนยันตัวตนสแกนใบหน้า เมื่อใช้บริการผ่านแอปธนาคาร โมบายแบงก์กิ้ง ดังนี้ 1.โอนเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง 2.โอนเงินเกิน 200,000 บาทต่อวัน 3.ปรับเปลี่ยนวงเงินโอน โดยแบงก์ชาติกำหนดให้ทุกธนาคารเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2566 แต่หากทำธุรกรรมโอนเงินไม่ถึงวงเงินดังกล่าว ก็ยังสามารถโอนเงินใช้บริการได้เหมือนเดิม

ธนาคารไทยพาณิชย์”

แจ้งลูกค้าเตรียมความพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรมดังต่อไปนี้ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY

1.โอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง 2.มูลค่ารวมของธุรกรรมโอนเงินทุกๆ 200,000 บาท ภายใน 1 วัน 3.ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป

ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ให้ลูกค้านำบัตรประชาชนไปอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันและถ่ายรูปใบหน้าได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะเริ่มทำรายการภายในเดือนมิถุนายน 2566

อย่างไรก็ตามลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถตรวจสอบได้ที่แอป SCB EASY > เมนูอื่นๆ > การตั้งค่า > จัดการบริการ NDID > ที่บรรทัดสุดท้าย > หากพบข้อความ “นำบัตรประชาชนไปติดต่อธนาคารไทยพาณิชย์สาขาที่สะดวก” รบกวนยืนยันตัวตนที่สาขาก่อน (ยืนยันตัวตนที่สาขาเพียงครั้งเดียว)

ธนาคารกรุงเทพ”

แจ้งว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ธนาคารจะเริ่มดำเนินการให้ผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า เมื่อทำธุรกรรมบนโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารกรุงเทพ ดังนี้ 1.รายการโอนเงินไปยังบุคคลอื่น หรือเติมเงินพร้อมเพย์/G-Wallet 2.ยอดสะสมต่อวันครบทุก 200,000 บาท 3.ปรับเพิ่มวงเงินโอนเงิน จ่ายเงิน ผ่านแอป

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพขอให้ลูกค้าเข้ามาเก็บข้อมูลใบหน้า โดยนำบัตรประชาชนไปอัปเดตและถ่ายรูปใบหน้าได้ที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย เมื่อทำธุรกรรมการเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง

“ธนาคารกรุงไทย”

แจ้งลูกค้าระบุว่า กรุงไทยไม่หยุดเพิ่มมาตรการความปลอดภัย ยกระดับการใช้งานแอปฯ NEXT และ เป๋าตัง สู่การสแกนใบหน้าที่ปลอมแปลงได้ยากกว่า OTP เพื่อยืนยันตัวตนก่อน โอน เติม จ่าย รีบนำบัตรประชาชนไปบันทึกข้อมูลยืนยันตัวตนและถ่ายภาพใบหน้า ได้ที่ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือตู้ ATM กรุงไทย สีเทา

ปลอดภัยเพื่อให้คุณทำได้คนเดียวเท่านั้น เมื่อโอนเงินไปยังบุคคลอื่นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป/ครั้ง, มูลค่ารวมของการโอนเงินทุกๆ 200,000 บาท/วัน, ปรับเพิ่มวงเงินให้โอนได้ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป, สะดวก เมื่อต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์มือถือ สามารถใช้งานแอปได้อย่างต่อเนื่อง เริ่ม มิถุนายน 2566

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา”

เตรียมความพร้อมอย่าลืมมาสแกนใบหน้าเพื่ออัปเดตข้อมูลกัน ลูกค้า KMA krungsri app และ Krungsri Biz Online ที่ยังไม่เคยมีรูปถ่ายกับทางธนาคาร สามารถนำบัตรประชาชนติดต่อสาขาเพื่อเพิ่มใบหน้าได้ทันที

ทำไมต้องรีบไปสแกนหน้า 1.ปลอดภัยในการทำรายการต่างๆ กับทางธนาคาร ป้องกันการสวมรอย และใช้ยืนยันการทำรายการที่มียอดเงินสูงรวมถึงการปรับเพิ่มวงเงินผ่านแอปเร็วๆ นี้ 2.สะดวก ในกรณีลูกค้าเปลี่ยนอุปกรณ์ลงแอปใหม่ ลืมรหัส เปลี่ยนเบอร์มือถือ หรือการยืนยันตัวตนเมื่อเปิดบัญชีใหม่ สมัครสินเชื่อ ลูกค้าสามารถใช้งานแอปได้ ไม่สะดุดบน KMA krungsri app

ธนาคารออมสิน”

ยกระดับความปลอดภัย เดือนพฤษภาคมนี้ หากต้องการโอนเงินมากกว่า 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ หรือมียอดสะสม 200,000 บาทต่อวัน หรือปรับเพิ่มวงเงินการทำรายการ หรือเปลี่ยนแปลงวงเงิน จะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยการเปรียบเทียบใบหน้าก่อน เพื่อให้เกิดธุรกรรมอย่างสมบูรณ์ ขอให้เตรียมความพร้อมโดย นำบัตรประชาชนและสแกนใบหน้า ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ ที่สำคัญ อย่าลืมอัปเดต MyMo ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

Back to top button