PLT ส่งซิกเป้ารายได้ปี 67 แตะพันล้าน ย้ำกลุ่มตระกูล “ฉิมตะวัน” กอดหุ้นแน่น
PLT ส่งสัญญาณเป้ารายได้ปี 67 แตะ 1 พันล้านบาท พร้อมย้ำกลุ่มตระกูล “ฉิมตะวัน” กอดหุ้นแน่นด้วย Lock-up และ เกณฑ์ Silent Period พร้อมรองรับการเติบโตอนาคต และผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นายวราวิช ฉิมตะวัน กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PLT เปิดเผย ว่า การเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกในหมวดสินค้าบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “PLT” ราคาเปิดอยู่ที่ 1.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท หรือ 12.26 % จากราคา IPO ที่ 1.55 บาทต่อหุ้น หลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 280 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าว สะท้อนถึงผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทางเรือและรถบรรทุก ที่มีจำนวนกองเรือขนส่ง LPG ที่มากที่สุดและอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในประเทศ มีคู่แข่งน้อยราย และมีความชำนาญในการเดินเรือเป็นเลิศ โดยมีลูกค้าหลักเป็นผู้จัดจำหน่ายก๊าซ LPG ตามมาตรา 7 รายใหญ่ของประเทศ เช่น OR, WP และ PTT ที่ใช้บริการขนส่งของบริษัทต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และทำสัญญากับบริษัททั้งแบบไม่กำหนดอายุสัญญา สัญญาระยะยาวและระยะสั้นมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเงินจากการระดมทุน บริษัทจะนำไปลงทุนซื้อเรือทดแทนเรือที่ถึงกำหนดปลดระวางเพื่อลดอายุเฉลี่ยกองเรือ เพิ่มอัตราค่าขนส่งและลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษา ขยายกองเรือบรรทุกก๊าซ LPG และก๊าซเคมีเหลว เพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ขนส่งไปยังกลุ่มสินค้าก๊าซเคมีเหลวประเภทผลิตภัณฑ์สายโอเลฟินส์ พร้อมขยายช่องทางและเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยัง CLMV ขยายกองรถบรรทุกก๊าซ LPG เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต รวมทั้งการติดตั้งระบบ ERP ภายในองค์กร ปรับปรุงลานจอดรถบรรทุกก๊าซ LPG ก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงรถบรรทุก และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ นับเป็นการสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมาย เพื่อให้บริษัทสามารถขยายตัวพร้อมรองรับการเติบโตในอนาคตและผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้ารายได้แตะ 1,000 ล้านบาท ในปี 2567
นายวราวิช กล่าวอีกว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพการลงทุน การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ การขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ รวมถึงการเดินหน้าหาโอกาสทางธุรกิจใหม่และกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับภาคเอกชนประเทศเวียดนาม ให้เช่าเรือจำนวน 2 ลำ โดยบริษัทให้เช่าเรือพร้อมพนักงาน โดยให้ผู้เช่าจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน ค่าน้ำมัน และค่าเทียบท่า ซึ่งเบื้องต้นจะใช้เช่าเรือก่อน 1 ลำ และคาดว่าจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
“ขอขอบคุณนักลงทุน ที่ให้การต้อนรับหุ้น PLT อย่างอบอุ่น นับตั้งแต่การโรดโชว์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และการเปิดจองซื้อ IPO ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และคึกคัก ดังช่วงระดมทุนเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ขายหมดเกลี้ยง โดยหลังจากนี้บริษัทพร้อมเดินหน้านำเงินระดมทุน (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ IPO) ไปต่อยอดธุรกิจ สร้างความเข้มแข็ง พร้อมทั้งผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย พร้อมเป็นหุ้น Growth Stock สำหรับนักลงทุน” นายวราวิช กล่าว
ด้าน นางสาวรัชนี ชาติบัญชาชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) กล่าว่า การเปิดซื้อขายหุ้นในวันแรกของ PLT ในราคาเปิดเหนือจองถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปต่อยอดการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศตามแผนกลยุทธ์ที่กำหนด เพื่อสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดย PLT เป็นหุ้น IPO ที่มีศักยภาพโดดเด่นและมีศักยภาพในการเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ปัจจุบันมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ( mai) ไปแล้ว ขอให้นักลงทุนมั่นใจในเสถียรภาพ กลยุทธ์การลงทุนและการบริหารงานของ PLT โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ กลุ่มตระกูลฉิมตะวัน จะถือหุ้นในบริษัทรวมทั้งสิ้น 680 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 70.83% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยหุ้นในสัดส่วน 55.00% จะติด Silent Period ในระยะเวลา 6 เดือน – 1 ปี และสำหรับหุ้นอีก 15.83% กลุ่มตระกูลฉิมตะวันได้เข้าทำข้อตกลงกับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเพื่องดการเสนอขาย ขายหรือโอนด้วยวิธีการใดๆ เป็นระยะเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Lock-Up) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
ขณะที่ นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า ราคาหุ้น PLT ที่เปิดตลาดเหนือจอง นอกเหนือจากความเชื่อมั่นในการบริหารและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทแล้ว นักลงทุนยังเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา รวมถึงความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจที่มีจำนวนกองเรือขนส่งก๊าซ LPG มากที่สุด มีคู่แข่งน้อยราย และมีลูกค้าเป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 รายใหญ่ของประเทศ และมีศักยภาพในการขยายช่องทางและเส้นทางการให้บริการขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่ม
ทั้งนี้ เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 434 ล้านบาท (ภายหลังหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ IPO) บริษัทฯ มีแผนนำไปใช้ในลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต โดยซื้อเรือบรรทุกก๊าซ LPG และก๊าซเคมีเหลว จำนวน 250 – 300 ล้านบาท ลงทุนขยายกองรถบรรทุกก๊าซ LPG จำนวน 65 ล้านบาท ติดตั้งระบบ ERP ภายในองค์กร จำนวน 15 ล้านบาท ปรับปรุงลานจอดรถบรรทุกก๊าซ LPG และก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงรถบรรทุกก๊าซ LPG จำนวน 12 ล้านบาท เงินที่เหลือบริษัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นในอนาคต