“ศาลล้มละลายกลาง” ยืดเวลา SMK ส่งแผนฟื้นฟู 1 เดือน

“ศาลล้มละลายกลาง” พิจารณาและอนุญาตให้ SMK ขยายเวลาส่งแผนฟื้นฟูไปอีก 1 เดือน เป็น 25 พ.ค.นี้ เหตุรอเจรจานักลงทุน-จัดกลุ่มเจ้าหนี้


บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ต่อมาศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทฯ ดำเนินการพื้นฟูกิจการ และตั้ง SMK เป็นผู้ทำแผน เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565

โดยคำสั่งตั้งผู้ทำแผนในราชกิจจานุเบกษาได้ถูกจัดพิมพ์และแจกจ่ายเล่มให้สมาชิกหรือประชาชนเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 อันเป็นวันเริ่มนับกำหนดระยะเวลาส่งมอบแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลา 3 เดือนตามกฎหมาย โดยผู้ทำแผนต้องส่งแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายในวันที่ 25 เมษายน 2566 นั้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ผู้ทำแผนได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการตามมาตรา 90/43 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 โดยขอขยายระยะเวลาส่งแผนออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือนนับแต่วันครบกำหนดเดิม ด้วยเหตุผลและความจำเป็นดังต่อไปนี้

ขณะนี้ ผู้ทำแผนอยู่ระหว่างการจัดเตรียมร่างแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งต้องมีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการจัดหาแหล่งเงินทุน ช่องทางการฟื้นฟูกิจการ และช่องทางต่างๆ ในการจ่ายชำระหนี้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ในปัจจุบัน ผู้ทำแผนและที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนที่ให้ความสนใจเข้ามาร่วมลงทุนกับบริษัทฯ ซึ่งมีจำนวนหลายราย โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดหาเงินลงทุน รวมถึงรูปแบบการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทุนอย่างเหมาะสม และยังมีผลต่อการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ในการจ่ายชำระหนี้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการให้มีความชัดเจนมากขึ้น

ประกอบกับที่บริษัทฯ มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทั้งสิ้นกว่า 295,312 ราย รวมเป็นจำนวนหนี้มากถึงประมาณ 29,268. 71 ล้านบาท ทำให้ในการจัดกลุ่มเจ้าหนี้ การวิเคราะห์ประมาณการทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทฯ รวมถึงเงื่อนไขการได้รับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ตามแผนฟื้นฟูกิจการ และการปรับโครงสร้างหนี้ ต้องมีความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้นเหตุผลและความจำเป็นข้างต้นทำให้ผู้ทำแผนจึงมีความจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งในการประมวลข้อมูลและพิจารณาให้รอบคอบถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไปในอนาคต เพื่อกำหนดเงื่อนไขที่เหมาะสม สามารถปฏิบัติได้ เกิดความเป็นธรรมต่อเจ้าหนี้ทั้งหลาย และเพื่อให้มั่นใจว่าแผนฟื้นฟูกิจการจะได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้และศาลต่อไป

ทั้งนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาแล้วและมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาการส่งแผนฟื้นฟูกิจการออกไปจนถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 โดยหลังจากนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ ศาลล้มละลายกลางจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนและแต่งตั้งผู้บริหารแผน และบริษัทฯ จะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการและจะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าใดๆ ในการฟื้นฟูกิจการรวมถึงความคืบหน้าอื่นเพิ่มเติมต่อไป

Back to top button