BCPG กำไร Q1 แตะ 512 ล้านบาท โบรกมอง Q2 ฟื้น รับรู้รายได้ขายไฟตามแผน
BCPG รายงานกำไรไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 512 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาส 4/65 ฟาก "บล.ฟิลลิป" มองผลงานเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/66 รับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าตามแผน
บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/66 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.66 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยลดลง เนื่องจากการสิ้นสุด Adder ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์รวม 56 เมกะวัตต์ ในเดือนกรกฎาคมและตุลาคม 2565 และมีนาคม 2566 อย่างไรก็ตาม ค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่ปรับเพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาผลกระทบของการสิ้นสุด Adder ได้
ขณะที่การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป. ลาวลดลง จากการหยุดผลิตไฟฟ้าในไตรมาส เพื่อเตรียมขายไฟฟ้าไปยังการไฟฟ้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (Vietnam Electricity – EVN)
ด้านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลงจากไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศ อินโดนีเซียและส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศฟิลิปปินส์ลดลง
อย่างไรก็ตาม การรับรู้ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น และโรงไฟฟ้าพลังงานลมใน ประเทศไทย พร้อมทั้ง ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมของ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาผลกระทบดังกล่าวข้างต้นบางส่วน
นอกจากนี้การรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ใน สปป.ลาว ลดลงจากการหยุดผลิตไฟฟ้าดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การรับรู้ผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศไทย และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมทั้งส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศฟิลิปปินส์และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการหยุดขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ใน สปป. ลาว บางส่วน
ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16 บาท คาดการณ์ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 และส่วนที่เหลือของปี จะทยอยฟื้นตัวจากการรับรู้โครงการที่อยู่ใน pipeline อย่าง Asia link และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯอีก 2 โครงการ