OSP ผลิตขวดแก้วพุ่ง-สินค้าแบรนด์เบบี้มายด์หนุน ดันกำไร Q1 แตะ 778 ล้านบาท
OSP รายงานงบไตรมาส 1/66 กำไรแตะ 778 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 749.71 ล้านบาท รับยอดขายผลิตขวดแก้วเพิ่มขึ้นรวมถึงแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล 556 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยจากปีก่อน
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/66 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.66 ดังนี้
สำหรับ OSP รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีกำไรสุทธิ 777.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.76% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 749.71 ล้านบาท เป็นผลมาจากแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล 556 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยจากปีก่อน
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากกลุ่มอื่นๆ อยู่ที่ 710 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 26.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการผลิตสินค้า (OEM) ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ขวดแก้ว ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงาน ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยดีขึ้น
ด้าน นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OSP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมเงินปันผลรับจากเงินลงทุนจำนวน 778 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131.1 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถลดต้นทุนการผลิตทั้งวัตถุดิบและพลังงาน ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ทำให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่รายได้จากการขายอยู่ที่ 6,545 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการขยายตัวของตลาดต่างประเทศ ที่เติบโตเป็นเลข 2 หลัก รวมถึงการฟื้นตัวของตลาดในประเทศจากกลยุทธ์การสร้างความหลากหลายของกลุ่มสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม รวมถึงมีเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง ทำให้โอสถสภาเป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ โอสถสภาขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค ซึ่งบริษัทฯ ได้ทยอยปรับสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดให้เป็นสูตรน้ำตาลน้อย และไม่มีน้ำตาล เพื่อตอบรับกระแสการดูแลรักษาสุขภาพของผู้บริโภค ทำให้บริษัทฯ ลดผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราภาษีความหวานรอบใหม่ และยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าได้อย่างลงตัว
“ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ที่เติบโตได้ดีทั้งในแง่ของยอดขายและกำไรสุทธิ เป็นการตอกย้ำว่าโอสถสภาได้ก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ ด้วยการปรับตัวและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และพร้อมจะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นางวรรณิภา กล่าว
ในส่วนแผนดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และทำกิจกรรมการตลาดที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้บริโภค อาทิ เตรียมเปิดตัว 5 พรีเซนเตอร์ใหม่ของเครื่องดื่มเอ็ม-150 เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมฐานผู้บริโภคทุกช่วงวัยไปจนถึงการบุกตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมเพื่อสุขภาพด้วย “ชาร์ค อุเมะ โซดา” นวัตกรรมน้ำโซดา 0 แคลอรี่ ไม่มีน้ำตาล พร้อมวิตามินที่ตอบโจทย์ความต้องการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ ประกอบกับการปรับเปลี่ยนองค์กรในทุกด้าน ทั้งการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
รวมถึงเดินหน้าต่อยอดการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค และผลักดันการเติบโตขององค์กรในระยะยาวต่อไปอย่างมั่นคง