เปลี่ยนแน่ “วิษณุ” ชี้หลัง “เลือกตั้ง” ไม่เหมือนเดิม เตือน “รัฐบาลใหม่” รับมือเหตุวุ่นวาย
“วิษณุ เครืองาม” เผยถึงเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ห่วงจะเกิดกรณีความไม่สงบเรียบร้อย มีการต่อต้าน มีการแบ่งกลุ่มเป็นฝักฝ่าย
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เวลา 11:00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. หน่วยเลือกตั้งที่ 42 เต็นท์ใต้ทางด่วน ซอยประชาชื่น 30 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ เขตเลือกตั้งที่ 7 กรุงเทพมหานคร โดยนายวิษณุ มีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 213 จากจำนวนผู้มีสิทธิในหน่วยเลือกตั้งนี้ทั้งหมด 781 คน
ทั้งนี้ นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ ที่ประชาชนออกมาลงคะแนนกันอย่างคึกคักว่าคึกคักหรือไม่รู้ แต่ก่อนหน้านี้ก็ต้องบอกว่าคึกคัก เพราะว่างเว้นการเลือกตั้งมา 4 ปี แต่ใน 4 ปีนั้น จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น คือการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รวมถึงในต่างจังหวัด มีการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบต.) เพราะฉะนั้น ประชาชนจะเริ่มคุ้นกับการเลือกตั้ง และรู้สึกว่าสิทธิการเลือกตั้งที่หายไปนานนั้นหลังจากกลับคืนมาแล้ว
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งก็เปลี่ยนประเทศทั้งนั้น เพราะต้องเปลี่ยนรัฐบาล แม้จะเป็นรัฐบาลเดิม ก็ต้องเปลี่ยนนโยบาย เปลี่ยนทีม เปลี่ยนวิธีทำงาน ต้องปรับเปลี่ยนไปเรื่อย
ดังนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นใครหรือแบบไหนก็ตาม เพราะจะไม่มีใครเอาของเดิมมาทำซ้ำ เนื่องจากถ้าใช้สติสัมปชัญญะก็รู้แล้วว่าของเดิมมีอะไรที่ผิดพลาด มีอะไรที่ต้องทำให้เข้ากับยุคสมัยที่ใหม่ขึ้น และอย่าลืมว่า 4 ปีที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดโควิด-19 นาน 3 ปี และยังมีสงครามระหว่างนานาประเทศ เพราะฉะนั้น อะไรหลายๆ อย่างที่เคยทำไม่ได้ เมื่อเลือกตั้งแล้ว สถานการณ์ต่างๆ เหล่านั้นเบาลง ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อถามว่าที่บอกว่าประเทศจะเปลี่ยนแปลง หมายความว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มี 2 อย่าง คือในทางเศรษฐกิจคงมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ คงจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่ตนยังเป็นห่วงว่าจะเกิดกรณีความไม่สงบเรียบร้อย มีการต่อต้าน การค้าน มีการแบ่งกลุ่มเป็นฝักฝ่าย ถ้ายังอยู่ก็จะฉุดนโยบายและวิธีการในการแก้ปัญหา ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม ซึ่งรัฐบาลที่เข้ามาต้องเตรียมรับมือตรงนี้ด้วย เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีอยู่เสมอ อย่าลืมว่าสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามา เราก็รู้ว่าเข้ามาด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้น และคิดว่าจะสามารถนำพาประเทศไปได้ แต่แล้วก็ไม่สามารถนําพาไปได้ เพราะว่ามีปัจจัยเรื่องการประท้วง คัดค้าน ต่อต้าน ซึ่งการต่อต้านคัดค้าน จะทําให้ฉุดทุกสิ่งทุกอย่างไปได้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงจากนี้จนถึงเวลาปิดหีบในเวลา 17:00 น. จะเชิญชวนประชาชนออกมาเลือกตั้งอย่างไร เพราะช่วงบ่ายมีการพยากรณ์อากาศว่า อาจมีฝนตกลงมา นายวิษณุ กล่าวว่า ตนก็ตกใจเหมือนกัน เพราะได้ยินว่ามีพายุโซนร้อนจะเข้ามา แต่เช้านี้เห็นอากาศสดใสแจ่มแจ้งดี จึงอยากเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
“เมื่อเวลาที่มีการยุบสภา ในพระราชกฤษฎีกาเขาใช้คำว่า สมควรคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน ดังนั้นเมื่อเขาคืนสิทธิมาให้แล้ว เราควรออกมาใช้สิทธิ ใช้อํานาจที่เป็นของเรา ขอให้ทุกคนออกมาทําหน้าที่ของตน เพราะมันถือเป็นหน้าที่ของเราด้วย” นายวิษณุ กล่าว