ฟอร์มแกร่ง! AWC โชว์รายได้ Q1 สูงกว่าก่อนโควิด ดันกำไรโตทะลัก 120%
ฟอร์มแกร่ง! AWC โชว์ไตรมาส 1/66 กำไร 1.42 พันล้านบาท โตทะลัก 120% จากปีก่อนกำไร 645.11 ล้านบาท รับรายได้ 4.79 พันล้านบาท สูงกว่าก่อนโควิด รับท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักสูงขึ้น
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/66 ดังนี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 1,422 ล้านบาท เพิ่มมากกว่าเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตสูงกว่าปี 62 ก่อนสถานการณ์ COVID-19 ส่วนรายได้ตามงบการเงินรวมมูลค่ายุติธรรมมีจำนวนรวม 4,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นการสะท้อนการดาำเนินงานตามกลยุทธ์ GROWTH-LED เพื่อสร้างการเติบโตของกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงการเติบโตของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ซึ่งมีการเติบโตต่อเนื่องในทุกกลุ่ม มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ที่ 4,152บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับปี 62 ก่อนสถานการณ์ COVID-19 ทั้งนี้บริษัทมุ่งเพิ่มทรัพย์สินดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์การสร้างการเติบโต ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินดำเนินงานปัจจุบันรวม 119,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36,548 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43.9 จากปี 62
โดยรายได้รวมตามงบการเงินในไตรมาส 1/66 เท่ากับ 4,785 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และเติบโตกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ปี 62 ที่ร้อยละ 30.8 สะท้อนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ GROWTH-LED เพื่อสร้างการเติบโตของกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับดีมานด์การท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศหลังกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งในปี 66 ทางภาครัฐได้เปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาพักในโรงแรมของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสัดส่วนรายได้ของกลุ่มนี้เติบโตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 57 โดยส่วนใหญ่เป็นการเติบโตในกลุ่มโรงแรมกลุ่มประชุมสัมมนา และโรงแรมอื่น ๆนอกกรุงเทพ และสำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า มีการเติบโตเช่นเดียวกันประชาชนกลับเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้ามากขึ้น
ประกอบกับบริษัทมีการปรับปรุงพัฒนาศูนย์การค้าให้เข้ากับกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อดึงดูดดึงลูกค้าให้เข้ามาให้บริการศูนย์การค้ามากขึ้น และการให้ส่วนลดแก่ผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 น้อยลงอย่างต่อเนื่อง และในส่วนกลุ่มธุรกิจอาคารสานักงาน มีผลการดาเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องจากความต้องการเช่าพื้นที่สานักงานเกรด A ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพื่อตอบรับเทรนด์การทางานในรูปแบบไฮบริดที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/66 บริษัทได้รับกำไรจากการรวมมูลค่ายุติธรรมจานวน 1,220 ล้านบาท ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้รวมของบริษัทตามงบการเงินในไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัท