SCAP จ่อออก “หุ้นกู้” ระดมทุนขยายฐาน ดันทั้งปีโตตามเป้า
SCAP เปิดปี 66 ส่งผลงานไตรมาสแรกกำไรทะลุ 394 ลบ. ชี้ธุรกิจเริ่มกลับมาท็อปฟอร์มจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ดีขึ้น เล็งออก “หุ้นกู้” ขยายธุรกิจสอดรับเป้าหมาย
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 394.44 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 75.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 224.83 ล้านบาท
ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 1,552.08 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 131.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 669.49 ล้านบาท รับอานิสงส์พอร์ตสินเชื่อขยายตัวดันรายได้ดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น สำหรับพอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ระดับ 26,521.67 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 133.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ปัจจัยการเติบโตหลักเกิดจากการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เป็นหลักสะท้อนภาพธุรกิจเช่าซื้อของบริษัทที่มีอนาคตสดใสหลังการควบรวม เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ประกอบธุรกิจบริษัทเงินทุน อีกทั้งได้อานิสงส์สถานการณ์เศรษฐกิจที่กลับมาพลิกฟื้นดีขึ้น กระตุ้นให้เกิดยอดการจองซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ต่อเนื่องจนถึงเทศกาลสงกรานต์
“ไตรมาสแรกของปี 66 เราสามารถสร้างความเชื่อมั่นในหุ้น SCAP ให้แก่นักลงทุนได้ตามที่ตั้งใจ สะท้อนจากผลการดำเนินงานที่เข้าเป้าทั้งรายได้และกำไร อีกทั้งน่าจะคลายกังวลประเด็นเรื่องเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อที่เราสามารถบริหารจัดการได้ตามแผนที่วางไว้ ส่วนแนวโน้มการเติบโตเราประเมินว่าจะดีต่อเนื่องทั้ง 2 ไตรมาสแรก จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังมีอยู่ตลอด คาดการณ์ว่าปิดครึ่งปีแรกเราน่าจะทำผลงานได้ตามเป้า และทั้งปีบริษัทฯ จะสามารถสร้างการเจริญเติบโตได้ตามแผน ส่งผลให้รายได้และกำไรทำนิวไฮรอบใหม่” นายวิชิต กล่าว
ขณะที่แผนงานในระยะถัดไป บริษัทเตรียมพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้ ให้แก่นักลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนสถาบัน โดยอยู่ระหว่างการเตรียมรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อนำส่งสำนักงาน ก.ล.ต. พิจารณา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายธุรกิจผ่านการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่ลูกค้าของบริษัท ซึ่งจะสอดรับกับเป้าหมายตลอดทั้งปีที่บริษัทได้วางแผนไว้ ปัจจุบันบริษัทมีการควบคุมคุณภาพหนี้และมีมาตรการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้คงอยู่ในระดับที่เหมาะสม และสามารถควบคุมได้ และให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้